พาณิชย์–NEA ติดอาวุธผู้ประกอบการให้ก้าวทันการค้าโลก “รู้ รับ ปรับตัว” ฝ่าวิกฤติโควิดพิชิตตลาดส่งออกระดับแสนล้าน

สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าติดอาวุธผู้ส่งออก “รู้ รับ ปรับตัว” ลุยเจาะตลาดต่างประเทศในยุคการค้าใหม่หลังวิกฤติโควิด–19 คิกออฟงานเสวนาแห่งปี “NEA  BizTalk  Series” : ก้าวทันการค้าโลก เจาะลึก 6 ตลาดส่งออกระดับแสนล้าน “ตะวันออกกลาง/ซาอุดิอาระเบีย เกาหลี อินเดีย อาเซียน จีน/ฮ่องกง และญี่ปุ่น” ผ่าน 6 เวทีเสวนา ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม–สิงหาคม 2565 นำร่องครั้งที่ 1 “เจาะลึกตลาดซาอุฯ มองทะลุตลาด MENA” ระดมทัพกูรูแชร์ประสบการณ์และถ่ายทอดความรู้ ขับเคลื่อนส่งออกไทยขยายตัวต่อเนื่อง

6 พฤษภาคม 2565 – สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดงานเสวนา “NEA  BizTalk  Series” : ก้าวทันการค้าโลก โครงการ “เจาะลึกตลาดต่างประเทศในยุคการค้าใหม่” ภายใต้โครงการพัฒนา SMEs ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร ประจำปี 2565 ครั้งที่  1 “เจาะลึกตลาดซาอุฯ มองทะลุตลาด MENA” โดยได้รับเกียรติจาก นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นางอารดา เฟื่องทอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และนางสาววิลาสินี โนนศรีชัย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ ณ ห้องประชุมพาณิชย์สัมพันธ์ ชั้น 11 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ พร้อมถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live ท่ามกลางความสนใจจากผู้ประกอบการ ประชาชนทั่วไป และสื่อมวลชน เข้าร่วมฟังการเสวนา

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กล่าวว่า สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) ภายใต้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นองค์กรชั้นนำในการพัฒนาผู้ประกอบการให้มีศักยภาพและสามารถแข่งขันในเวทีการค้ายุคใหม่ ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” และส่งเสริมตลาดส่งออกสำคัญ โดยเน้นการรักษาตลาดเดิม เพิ่มตลาดใหม่ และฟื้นฟูตลาดเก่า ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านการค้าระหว่างประเทศจากการเปลี่ยนแปลงทั้งในบริบททางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโควิด–19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและเศรษฐกิจทั่วโลก ดังนั้น ผู้ประกอบการต้อง ตั้งรับ ปรับตัว และหาโอกาสขยายตลาดด้วยกลยุทธ์ใหม่ ๆ ให้ก้าวทันการค้าโลก

สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA)  ได้จัดทำโครงการ “เจาะลึกตลาดต่างประเทศในยุคการค้าใหม่” ภายใต้โครงการพัฒนา SMEs ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร ประจําปี 2565 ในรูปแบบงานเสวนา “NEA BizTalk Series” : ก้าวทันการค้าโลก เพื่อเสริมสร้างความรู้ การวิเคราะห์ตลาดเชิงลึกถึงตลาดที่มีศักยภาพในยุคการค้าใหม่ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คู่แข่งขัน ปัญหาและอุปสรรค ช่องทางและโอกาสทางการตลาด โดยเฉพาะในช่วงหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด–19 ครอบคลุม 6 ตลาดเป้าหมาย ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่าการค้าสูง ได้แก่ ตลาดตะวันออกกลาง/ซาอุดิอาระเบีย ตลาดเกาหลี ตลาดอินเดีย ตลาดอาเซียน ตลาดจีน/ฮ่องกง และตลาดญี่ปุ่น โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความชำนาญเฉพาะด้านจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนมาร่วมแชร์ประสบการณ์ พร้อมถ่ายทอดความรู้ให้ผู้ประกอบการปรับตัวได้ทันกับสถานการณ์การค้าในตลาดต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยจัดงานเสวนา 6 ตลาดเป้าหมาย จำนวน 6 ครั้ง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม–สิงหาคม 2565

สำหรับงานเสวนา “NEA BizTalk Series” : ก้าวทันการค้าโลก ครั้งที่ 1 “เจาะลึกตลาดซาอุฯ มองทะลุตลาด MENA” ที่จัดขึ้นในวันนี้ (6 พฤษภาคม 2565) เป็นการวิเคราะห์เจาะลึกโอกาสการส่งออกสินค้าไปยังประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ โดย ปณต บุณยะโหตระ กงสุล (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อภิชาติ ประเสริฐสุด กงสุล (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจดดาห์ ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย, พูลศักดิ์ คุณอุดม อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์)  สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี, ทวีป ราชาภักดี  อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน, เถลิงศักดิ์ วงศ์สามศร อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงไคโร สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์, พรพรรณี ปิ่นโภคินทร์ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเทลอาวีฟ รัฐอิสราเอล, วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ประธานสภาธุรกิจไทย–ตะวันออกกลาง และรองประธานกรรมการหอการค้าไทย และ ดร.ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย มาร่วมแชร์ประสบการณ์และถ่ายทอดความรู้ให้ผู้ประกอบการ โดยมี บัญชา ชุมชัยเวทย์ เป็นวิทยากรดำเนินรายการ

นายภูสิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2564 ที่ผ่านมา ประเทศไทยส่งออกไปตลาดตะวันออกกลาง/ซาอุดิอาระเบีย มีมูลค่าประมาณ  8,850 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออก 3 อันดับแรก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ข้าว และเครื่องปรับอากาศ ตลาดเกาหลี มูลค่า 5,882 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออก ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป น้ำตาลทราย และแผงวงจรไฟฟ้า ตลาดอินเดีย มูลค่า 8,534 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออก ได้แก่ เม็ดพลาสติก อัญมณีและเครื่องประดับ และเคมีภัณฑ์ ตลาดอาเซียน มูลค่า 65,015 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ
ตลาดจีน/ฮ่องกง มูลค่า 48,793 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออก ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก และผลิตภัณฑ์ยาง และตลาดญี่ปุ่น มูลค่า 24,985 ล้านเหรียญสหรัฐ  สินค้าส่งออก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไก่แปรรูป และเคมีภัณฑ์ ซึ่งในทุกตลาดดังกล่าว มีอัตราการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 “สถานการณ์โควิด–19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลกได้ฉุดเศรษฐกิจโลกให้ถดถอยอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นโจทย์ท้าทายสำหรับธุรกิจส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดประเทศชั่วคราวในแทบทุกประเทศ ส่งผลให้ส่งออกสินค้าไม่ได้ เกิดภาวะขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ค่าขนส่งปรับตัวสูงขึ้นหลายเท่าตัว ส่งผลให้ราคาสินค้าในการส่งออกปรับสูงขึ้นตามไปด้วย ตลอดจนส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนทั่วโลก ดังนั้น ผู้ส่งออกจำเป็นต้องคิดค้นกลยุทธ์เพื่อตั้งรับ ปรับตัว และสร้างโอกาส ใหม่ ๆ ให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ซึ่งการได้รับความรู้จากวิทยากร ผู้มีประสบการณ์ตรงใน 6 ตลาดการค้าระดับแสนล้าน ได้แก่ ตลาดตะวันออกกลาง/ซาอุดิอาระเบีย เกาหลี อินเดีย อาเซียน จีน/ฮ่องกง และญี่ปุ่น จะช่วยให้ผู้ส่งออกนำความรู้ไปพัฒนาธุรกิจ เพื่อก้าวสู่โอกาสทางการค้าในเวทีตลาดโลกแล้ว ยังเพิ่มศักยภาพการส่งออกและสร้างรายได้เข้าประเทศไทยอีกด้วย” นายภูสิต กล่าว 

สำหรับงานเสวนา “NEA BizTalk Series” : ก้าวทันการค้าโลก ครั้งที่ 2 ในหัวข้อ “รู้ รับ ปรับตัว เข้าถึงตลาดเกาหลีในยุคการค้าใหม่” มีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2565, ครั้งที่ 3 หัวข้อ “เปิดโลกหลังโควิด พิชิตตลาดอินเดีย” วันที่ 15 มิถุนายน 2565, ครั้งที่ 4 หัวข้อ “หุ้นส่วนการค้า เชื่อมสัมพันธ์ตลาดอาเซียน” วันที่ 19 กรกฎาคม 2565, ครั้งที่ 5 หัวข้อ“ส่องฮ่องกง รู้ใจจีน ฝ่าฟันการค้ายุคโควิด” วันที่ 20 กรกฎาคม 2565 และครั้งที่ 6 หัวข้อ“รู้เท่า ก้าวทัน จับมือกันพิชิตตลาดญี่ปุ่น” จะจัดขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคม 2565 โดยผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวได้ที่  Facebook  สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1169 กด 1

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *