เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน 23 กันยายน 2568 – หัวเว่ย คลาวด์ โดย จาง ผิงอัน (Zhang Ping’an) กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นำเสนอวิสัยทัศน์ นวัตกรรม และการปฏิบัติการด้านบริการประมวลผล AI โมเดลพื้นฐาน AI เชิงกายภาพ (Embodied AI) และ AI Agent รวมถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่น ๆ ในวันที่สองของงาน HUAWEI CONNECT 2025 และมี ชาร์ลส์ หยาง (Charles Yang) รองประธานอาวุโสของหัวเว่ย และประธานฝ่ายการตลาดและการขายบริการระดับโลกของหัวเว่ย คลาวด์ กล่าวถึงนวัตกรรมและประสบการณ์ของหัวเว่ย คลาวด์ที่ช่วยเสริมศักยภาพให้องค์กรสามารถประสบความสำเร็จในตลาดโลก ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและอัจฉริยะ
นายจาง ผิงอัน (Zhang Ping’an) กล่าวว่า AI Token Service ของหัวเว่ย คลาวด์ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยลดความซับซ้อนทางเทคนิค และส่งมอบผลลัพธ์การประมวลผล AI ที่สมบูรณ์แบบให้กับผู้ใช้งานโดยตรง ทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากพลังประมวลผลเชิงอนุมาน (Inference Computing Power) ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ภายในงานนายจาง ยังได้ประกาศเปิดตัว AI Token Service อย่างเป็นทางการ ซึ่งขับเคลื่อนด้วย CloudMatrix384 ที่พร้อมมอบประสิทธิภาพ การให้บริการ และคุณภาพที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า

CloudMatrix384 ซูเปอร์โหนด ได้รับการออกแบบมาเพื่อรวมทรัพยากรทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นด้านการประมวลผล หน่วยความจำ และการจัดเก็บข้อมูลเข้าไว้ด้วยกัน โดยสามารถแยกการทำงานระหว่างงานประมวลผล งานจัดเก็บข้อมูล และระบบผู้เชี่ยวชาญ AI ออกจากกันได้ อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนกระบวนการทำงานแบบเรียงลำดับให้เป็นการประมวลผลแบบกระจายขนาน ซึ่งช่วยยกระดับประสิทธิภาพการประมวลผลเชิงอนุมานของระบบได้อย่างก้าวกระโดด สำหรับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบออนไลน์ เนียร์ไลน์ (Nearline) และออฟไลน์ CloudMatrix384 มอบสมรรถนะการประมวลผลเชิงอนุมานต่อการ์ดที่สูงกว่ารุ่น H20 โดยเฉลี่ยถึง 3 – 4 เท่า
นายจาง ระบุว่า หัวเว่ย คลาวด์จะลงทุนในด้าน AI และการประมวลผลมากขึ้น เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ปัจจุบัน จำนวนลูกค้าทั่วโลกที่ใช้บริการ AI Compute Service ของหัวเว่ย คลาวด์ได้เพิ่มขึ้นจาก 321 รายในปี 2567 เป็น 1,805 รายในปีนี้
หัวเว่ย คลาวด์ จะเดินหน้าเพิ่มการลงทุนใน Pangu Models อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเจาะลึกในแต่ละอุตสาหกรรมเพื่อทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น และสนับสนุนให้ลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ สามารถพัฒนาโมเดลของตนเอง เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคอัจฉริยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน Pangu Models ถูกนำไปประยุกต์ใช้แล้วในกว่า 500 สถานการณ์ ครอบคลุมมากกว่า 30 อุตสาหกรรม สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการพลิกโฉมและเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับภาคธุรกิจ
ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและอัจฉริยะที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก หัวเว่ย คลาวด์ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบบริการคลาวด์ที่มีเสถียรภาพ มีประสิทธิภาพสูง และปลอดภัย อันจะช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จของลูกค้าทั่วโลกได้อย่างยั่งยืน

นายชาร์ลส์ หยาง (Charles Yang) รองประธานอาวุโสของหัวเว่ย และประธานฝ่ายการตลาดและการขายบริการระดับโลกของหัวเว่ย คลาวด์ ได้เน้นย้ำว่าองค์กรต่าง ๆ กำลังเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อนท่ามกลางยุคดิจิทัลอัจฉริยะ เพื่อตอบโจทย์นี้ หัวเว่ย คลาวด์ได้กำหนดจุดยืนเชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจน พร้อมนำเสนอระบบสนับสนุนแบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ระดับโลกหนึ่งเดียว และสองกลไกขับเคลื่อน – ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และขับเคลื่อนด้วย AI” เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันและช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในตลาดโลก
องค์ประกอบประการแรก คือ KooVerse โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ระดับโลกที่ให้บริการคลาวด์แบบยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ประการที่สอง คือ บริการเสริมประสิทธิภาพข้อมูล ที่ช่วยจัดการและใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมปลดล็อกศักยภาพเชิงคุณค่าของข้อมูล ประการที่สาม คือ แพลตฟอร์มพัฒนา AI แบบครบวงจร ที่ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ใช้ AI เป็นหลัก และขับเคลื่อนนวัตกรรมได้อย่างคล่องตัว และสุดท้าย หัวเว่ย คลาวด์ได้รวบรวมแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดจากประสบการณ์การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและอัจฉริยะในระดับโลก และนำมาถ่ายทอดผ่านบริการคลาวด์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในทุกมิติ