ผลวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคชี้ ลูกค้าที่มีทัศนคติด้านลบด้านการให้เช่าพื้นที่ หันไปใช้ประกันภัยที่ฝังตัวอยู่ในผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งมีราคาไม่ต่างจากประกันแบบดั้งเดิม

เหล่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้องการความสะดวกสบาย ในขณะที่ประสบการณ์อันไม่น่าประทับใจที่ลูกค้าได้รับ กระตุ้นให้เกิดการหันไปใช้ประกันภัยที่ฝังตัวอยู่ในผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งมีราคาไม่ต่างจากประกันแบบดั้งเดิม เกือบ 100% ของผู้ให้เช่าระยะสั้นทั้งหมด ซึ่งกำลังมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น มีความต้องการที่จะให้ผู้ให้บริการปล่อยเช่าที่พัก อาทิ Booking.com, Airbnb, Vrbo, Expedia และรายอื่น ๆ นำเสนอและทำประกันภัยสำหรับผู้ให้เช่า

ธันวาคม 2565, ประเทศไทย งานวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่าลูกค้าทั่วโลกจะเปลี่ยนไปใช้ประกันภัยที่ฝังตัวอยู่ในผลิตภัณฑ์และบริการ (Embedded Insurance) มากขึ้นในอนาคต (+36%) ซึ่งมีราคาไม่ต่างจากผู้รับประกันภัยแบบดั้งเดิม (-14%) เพราะมีความสะดวกรวดเร็วกว่า อย่างไรก็ตาม แม้พวกเขาจะต้องการประกันภัยที่ฝังตัวอยู่ในผลิตภัณฑ์และบริการ กว่า 67% ของเจ้าของบ้าน เจ้าของที่ดิน และผู้ให้เช่า ต่างยังไม่ได้รับข้อเสนอด้านประกันภัยในขั้นตอนการนำอสังหาริมทรัพย์เพื่อออกเช่า

ข้อมูลดังกล่าวมาจากงานการศึกษาผู้บริโภคชิ้นใหม่ของ คอฟเวอร์ จีเนียส ซึ่งจัดทำโดย Momentive.ai โดยได้สำรวจเจ้าของบ้าน เจ้าของที่ดิน และผู้ให้เช่า กว่า 15,000 คน ทั่วโลก เพื่อตรวจสอบความสนใจที่มีต่อประกันภัยรูปแบบใหม่ ซึ่งนายหน้า ธนาคาร ผู้ให้กู้ ที่ปรึกษาด้านสินเชื่อ ผู้ให้บริการการปล่อยเช่าระยะสั้น และบริษัท PropTech อื่น ๆ นำเสนอประกันภัยระหว่างขั้นตอนของการขอซื้อหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์

การศึกษาพบว่าผู้ให้เช่าระยะสั้นต้องการประกันภัยสำหรับผู้ให้เช่าที่มีผลคุ้มครองตลอดเวลาจากผู้ให้บริการปล่อยเช่า มิใช่เพียงแค่ความคุ้มครองที่ได้รับทับซ้อนกันอยู่ในช่วงระยะเวลาที่ทำการเช่า โดยมากถึง 98% ของผู้ตอบแบบสำรวจชี้ให้เห็นว่าพวกเขาสนใจซื้อประกันเจ้าของบ้านจากผู้ให้บริการให้เช่า โดยมีความสะดวกสบายเป็นตัวกระตุ้นสำคัญ ประกันภัยทั่วไปที่ผู้ให้บริการปล่อยเช่าส่วนมากมอบให้กับผู้ให้เช่ามักจะมีความคุ้มครองที่ทับซ้อนกันกับกรมธรรม์ประกันภัยที่มีอยู่ ทำให้ผู้ให้เช่าต้องจ่ายเงินมากเกินไปโดยไม่จำเป็น ประกันภัยที่ฝังตัวอยู่ในผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้ให้เช่าจึงเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้ โดยเฉพาะในประเทศที่ประกันภัยสำหรับผู้ให้เช่าไม่ได้เป็นประกันภัยภาคบังคับและเกิดการประกันภัยต่ำกว่ามูลค่า ข้อเสนอประกันภัยตามความต้องการที่ปรับปรุงความคุ้มครองของผู้ให้เช่ามีศักยภาพที่จะช่วยลดการทับซ้อนของความคุ้มครอง และช่วยผู้ให้เช่าสามารถลดค่าประกันหรือค่าเช่า ข้อมูลจากแบบสำรวจชี้ให้เห็นว่า 32% ของผู้ให้เช่าต้องการจ่ายเงินน้อยลงให้ผู้ให้บริการปล่อยเช่า และ 35% ต้องการจ่ายค่าประกันภัยสำหรับผู้ให้เช่าที่ถูกลง

“ลูกค้าต้องการประสบการณ์ที่ดีกว่าจากการเช่าหรือการซื้ออสังหาริมทรัพย์” คุณ แองกัส แมคโดนัลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งของ คอฟเวอร์ จีเนียส กล่าว “การใช้ประโยชน์จากประกันภัยที่ฝังตัวอยู่ในผลิตภัณฑ์และบริการจะช่วยให้บริษัทดิจิทัลปรับปรุงกระบวนการประกันภัยอสังหาริมทรัพย์ที่พบเจอปัญหามาเป็นเวลานาน โดยการมอบความคุ้มครองดิจิทัลที่ครอบคลุมทั้งวงจรชีวิตของบ้าน ตั้งแต่การก่อสร้างไปจนถึงการครอบครองและการปล่อยเช่า งานวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่ดีมากสำหรับบริษัทดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการปล่อยเช่าระยะสั้น ธนาคาร ผู้ปล่อยกู้ หรือบริษัท PropTech ในการมอบโซลูชันเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้”

ผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า ประสบการณ์การเคลมประกันในกลุ่มประกันอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ลูกค้าต้องหาความคุ้มครองจากแหล่งอื่น ๆ โดยเจ้าของบ้าน  ผู้ให้เช่า และเจ้าของที่ดิน ได้ให้คะแนนหลังการเคลมประกันในระดับปานกลาง โดยมีคะแนน Net Promoter Score (NPS) อยู่ที่ -3 ผู้ที่เคลมประกันไปเมื่อไม่นานต้องการเปลี่ยนผู้ให้ประกัน มีจำนวนมากกว่าผู้ที่ไม่ได้เคลมประกันเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ 16% ทั้งนี้ คอฟเวอร์ จีเนียส บริษัทประกันภัยแบบอินชัวร์เทค (Insuretech) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านประกันภัยที่ฝังตัวอยู่ในผลิตภัณฑ์และบริการ ได้มอบบริการการเคลมประกันที่สะดวกสบาย ไร้รอยต่อ โดยมีคะแนนหลังการเคลมประกันที่ NPS +65* ซึ่งเป็นคะแนนที่สูงที่สุดในวงการประกันภัย

สถานการณ์นี้เป็นไปตามรายงาน 3 ฉบับ ที่พบว่าลูกค้าทั่วโลกต้องการความคุ้มครองแบบฝังตัวอยู่ในผลิตภัณฑ์และบริการ เพราะมีความสะดวกรวดเร็วมากกว่า การเปลี่ยนแปลงในความต้องการของลูกค้านี้ยังมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่ไม่แตกต่างจากบริษัทประกันภัยแบบดั้งเดิม และเป็นข้อได้เปรียบสำหรับตัวแทนสายการบิน ตัวแทนท่องเที่ยว ธนาคาร (อิงจากข้อมูลการทำธุรกรรมชี้ให้เห็นว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการรับข้อเสนอจากธนาคาร) และผู้ค้าปลีก

สามารถดาวน์โหลดรายงานทั่วโลกฉบับเต็มได้ที่ “รายงานด้านประกันภัยอสังหาริมทรัพย์แบบฝังตัวอยู่ในผลิตภัณฑ์และบริการ” และสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมทั้งการวิเคราะห์ผลการศึกษาจาก 16 ประเทศ ได้ที่  สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ลาตินอเมริกา, อาร์เจนตินา, บราซิล, เม็กซิโก, อังกฤษ, อิตาลี, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, สิงคโปร์, เวียดนาม, ออสเตรเลีย, อินเดีย, เกาหลีใต้, ไทย และ อินโดนีเซีย

เกี่ยวกับ คอฟเวอร์ จีเนียส

บริษัท คอฟเวอร์ จีเนียส โบรคเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (Cover Genius) คือบริษัทประกันภัยแบบอินชัวร์เทค (Insuretech) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านประกันภัยที่ฝังตัวอยู่ในผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งให้การคุ้มครองแก่ลูกค้าบริษัทดิจิทัลยักษ์ใหญ่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Booking Holdings ซึ่งเป็นเจ้าของ Priceline, Kayak, และ Booking.com, Intuit, Hopper, Skyscanner, Ryanair, Turkish Airlines, Descartes ShipRush, Zip, และ SeatGeek เรายังนำเสนอประกันผ่าน Amazon, Flipkart, eBay, Wayfair, และบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง Shopee วิสัยทัศน์ของคอฟเวอร์ จีเนียส คือการมุ่งคุ้มครองลูกค้าบริษัทออนไลน์รายใหญ่ต่าง ๆ ผ่านเทคโนโลยีที่มีการการันตีด้วยรางวัลระดับแนวหน้า อันรวมถึง XCover ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดับรับรางวัล โดยจัดจำหน่ายการคุ้มครองหรือการรับประกันต่างๆ ที่สามารถใช้งานได้ทั่วโลก ซึ่งเป็น API สำหรับการชำระค่าสินไหมทดแทนที่จะมีการอนุมัติทันที โดยตัวชี้วัดความพึงพอใจของลูกค้าต่อบริษัท (NPS) อยู่ที่ +65 ซึ่งถือเป็นดัชนีที่ได้รับการยอมรับว่าสูงที่สุดสำหรับบริษัทประกันภัยที่มีอยู่ทั่วโลก

คอฟเวอร์ จีเนียส และพันธมิตรทางธุรกิจมีส่วนร่วมสร้างโซลูชันสำหรับการคุ้มครองแบบดิจิทัล ซึ่งได้ประโยชน์จากใบอนุญาตของคอฟเวอร์ จีเนียส ที่มีมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลกและทั้ง 50 รัฐของสหรัฐอเมริกา

คะแนนดังกล่าวรวมถึงการเคลมทุกประเภทและผลลัพธ์การเคลมทุกครั้งในเครือข่ายพันธมิตรของเรา โดยไม่รวมถึงบริษัทพันธมิตรที่มีการเคลมน้อยกว่า 30 ครั้ง และบริษัทพันธมิตรที่ไม่ได้รับการประเมินโดย คอฟเวอร์ จีเนียส

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *