![](https://thailandinsidenew.com/wp-content/uploads/2020/11/296F9EDF-1B7C-41F4-B6D5-6CADD59FBAF7.jpeg)
กสศ. จับมือ บช.ตชด. ร่วมสร้างโอกาสติดอาวุธให้ครู ตชด.โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทย พร้อมออกแบบหลักสูตรจัดการศึกษาเพิ่มคุณวุฒิวิชาชีพครู ตชด. โดยไม่ต้องทิ้งห้องเรียน ลดภาระค่าเดินทาง นำร่อง 50 โรงเรียน ตชด. หวังผลลัพธ์ช่วยเติมโอกาสเพิ่มเต็มสมรรถนะเด็กในพื้นที่โรงเรียนห่างไกลให้มีคุณภาพการศึกษา
![](https://thailandinsidenew.com/wp-content/uploads/2020/11/A884DBF2-BC94-4793-959E-C11BDAC0404C.jpeg)
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ที่ โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพมหานคร กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจตระเวรชายแดน (บช.ตชด.) และภาคีเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษา จัดประชุมหัวข้อ “สมรรถนะครูตำรวจตระเวนชายแดนกับการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา” ภายใต้โครงการพัฒนาครูในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร โดยมีผู้แทนอาจารย์จาก 4 สถาบันเครือข่ายที่ทำหน้าที่พัฒนาและปรับหลักสูตรการจัดการศึกษาเพื่อเพิ่มคุณวุฒิทางวิชาชีพครู ตชด. ในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏลย และมหาวิทยาลัยทักษิณ เข้าร่วมประชุม
![](https://thailandinsidenew.com/wp-content/uploads/2020/11/BE3B8008-C8C7-4AAB-8C82-CB95AB3C6556.jpeg)
พลตำรวจโทวิชิต ปักษา ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กล่าวว่า บช.ตชด. ได้ส่งตำรวจไปเป็นครูสอนเด็กในถิ่นทุรกันดาร และก่อตั้งโรงเรียนแห่งแรกเมื่อปี 2499 ปัจจุบันมีโรงเรียนสังกัด ตชด. 220 แห่ง จัดการเรียนการสอนโดยใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เช่นเดียวกับโรงเรียนทั่วไป มีนักเรียน 26,577 คน มีครู ตชด. 1,467 คน จากผลการประเมินพบว่าครูจำนวนหนึ่งยังไม่มีคุณวุฒิทางการศึกษา เพราะต้องใช้ระยะเวลาเดินทางมาก บางช่วงเวลาไม่สามารถเดินทางได้ ทำให้ครูไม่สามารถเข้าเรียนต่อหรือเรียนแต่ไม่จบตามแผนการศึกษาปกติที่มหาวิทยาลัยกำหนดได้ ตชด. เห็นความสำคัญของปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น จึงร่วมกับ กสศ. ทำโครงการพัฒนาครูในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน
![](https://thailandinsidenew.com/wp-content/uploads/2020/11/75E60881-02C7-42D5-99F4-B30D31F8611B.jpeg)
ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ที่ปรึกษากองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวว่า การพัฒนาโครงการนี้ เริ่มจากมหาวิทยาลัยลงพื้นที่ไปรับฟังความคิดเห็นจากครู นักเรียน โรงเรียน เพื่อรับฟังความต้องการและให้เห็นสภาพพื้นที่จริง ก่อนที่จะนำมาออกแบบหลักสูตรให้ตรงกับความต้องการและมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นลดปัญหาข้อจำกัดของครูตชด.ด้านการเดินทาง และไม่สามารถเรียนในระดับมหาวิทยาลัยตามหลักสูตรปัจจุบันได้ โดยการเรียนการสอนสามารถให้ใช้เครื่องมือ เทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว และสื่อออนไลน์ มาเสริมในโครงการนำร่องให้เกิดประโยชน์และพัฒนาอย่างต่อเนื่องอย่างเป็นรูปธรรม
![](https://thailandinsidenew.com/wp-content/uploads/2020/11/9A7E12A7-DE1D-43EB-A6CD-16CD4DE2B7A5.jpeg)
ดร.อุดม วงษ์สิงห์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาคุณภาพครู นักศึกษาครู และสถานศึกษา กสศ. กล่าวว่า การวิเคราะห์ผลสอบจากโปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล หรือ PISA ที่ดำเนินการโดย OECD พบว่า การเรียนรู้ของเด็กในเมืองกับชนบทนั้นห่างกันถึง 2 ปีการศึกษา สำหรับเด็กในโรงเรียน ตชด. จัดเป็นเด็กที่อยู่ในโรงเรียนชนบทด้วยเช่นกัน การเรียนรู้อาจเทียบไม่ได้กับเด็กในเมือง เพราะครูที่สอนส่วนใหญ่ไม่มีพื้นฐานมาจากวิชาชีพครูแต่เป็นตำรวจที่มาทำหน้าที่สอนหนังสือ หรือ ครู ตชด. ซึ่งข้อมูลเมื่อ ปี 2562 พบว่ากว่าร้อยละ 50 ยังไม่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สอดคล้องกับผลสำรวจของ บช.ตชด. เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 พบว่า ครู ตชด.1,391คน เป็นครูที่มีคุณวุฒิทางการศึกษาและใบประกอบวิชาชีพครู 361 คน และครูที่ยังไม่มีคุณวุฒิทางการศึกษาและใบประกอบวิชาชีพครู 1,096 คน นอกจากนี้ กสศ. ได้สำรวจความต้องการพัฒนาครูและการเรียนรู้ของเด็กจากครู ตชด. พบครูต้องการความช่วยเหลือ 2 ส่วน คือ 1.พัฒนาการเรียนรู้ของเด็กโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน 2.ต้องการเพิ่มวุฒิการศึกษาทางด้านครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประโยชน์ให้กับโรงเรียนและนักเรียน ทั้งนี้ หากกสศ.สามารถผลักดันให้ครูตชด.พัฒนาตนเองได้ สุดท้ายโอกาสและผลประโยชน์จะเกิดกับเด็กและนักเรียนยากจนด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกลอีกด้วย
![](https://thailandinsidenew.com/wp-content/uploads/2020/11/74EC2825-1564-4A42-BC6A-F303BBDF1737.jpeg)
“ครู ตชด. เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ สอนเด็กด้อยโอกาสขาดแคลนทุนทรัพย์ในพื้นที่ห่างไกลติดชายแดน ขณะที่ผลการสอบ
O-NET ของเด็กโรงเรียน ตชด. จะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาโดยตลอด กสศ. จึงมุ่งหวังให้โครงการนี้เข้าไปช่วยครู ตชด. ยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ของเด็กได้ ผ่าน 2 เรื่อง คือ 1. พัฒนาครูโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เติมเต็มทฤษฎีจากคณาจารย์หรือพี่เลี้ยง และ 2. ให้ครูมีโอกาสเพิ่มความรู้และวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยคำนึงถึงบริบทความยากลำบากด้านการเดินทาง ดังนั้นหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ 1. มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร 2. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 3. มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย และ 4. มหาวิทยาลัยทักษิณ ออกแบบมานั้น นอกจากครูไม่ต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัยทุกวันแล้ว ยังจะมีการเทียบโอนหน่วยกิตได้บางส่วนจากภาคปฏิบัติในโรงเรียนได้อีกด้วย และอาจารย์จากมหาวิทยาลัยจะเข้าไปนิเทศก์การสอนในพื้นที่ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายการเดินทางให้กับครู ตชด.ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ครู ตชด. จะสามารถจบการศึกษาได้ภายใน 3 ปี ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่จะมีหลักสูตรเพื่อครู ตชด.โดยเฉพาะ คาดว่าปี 2565 จะมีครูโรงเรียน ตชด.ได้รับการศึกษาจากหลักสูตรนี้เป็นรุ่นแรก นำร่องไม่น้อยกว่า 50 แห่ง ใน 15 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เลย อุดรธานี บึงกาฬ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ตาก สงขลา สตูล ตรัง และพัทลุง” ดร.อุดม กล่าว
![](https://thailandinsidenew.com/wp-content/uploads/2020/11/C07D6597-EC0F-4BCB-AE4D-EB7EE1068BE9.jpeg)
ดร.สุธาสินี บุญญาพิทักษ์ มหาวิทยาลัยทักษิณ กล่าวว่า การดำเนินงานจะทำคู่ขนาน นำบริบทของแต่ละโรงเรียนมาเป็นเกณฑ์หลักในการออกแบบหลักสูตร 2 ลักษณะ คือ 1. หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู เหมาะกับครูที่มีความเชี่ยวชาญด้านสาระเนื้อหาอยู่แล้ว แค่เติมคุณวุฒิบางส่วนให้ครูนำไปบูรณาการกับเนื้อหาที่มีอยู่โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน
ผ่านเครื่องมือชุดวิชา 3 ชุด ได้แก่ ชุดศาสตร์การสอนสำหรับครูเพื่อศิษย์ ชุดครูนวัตกรบนฐานชุมชนการเรียนรู้ และชุดเครื่องมือสำหรับครู 2.หลักสูตรนวัตกรรมการศึกษาตลอดชีวิตบูรณาการประถมศึกษา เป็นหลักสูตรระดับปริญญาตรีทางการศึกษา ผลิตครู 4 ปี ผู้เรียนจะได้คุณวุฒิระดับประถมศึกษาซึ่งเป็นคุณวุฒิสำคัญต่อการพัฒนาครู ตชด. หลักสูตรนี้จะบูรณาการระหว่างองค์ความรู้ด้านวิชาการที่จำเป็นต่อการเป็นครูประถมศึกษา ความรู้บริบทโรงเรียนที่ชุมชนมีความหลากหลายทั้งแง่วิถีชีวิต วัฒนธรรม และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้หลักสูตรตอบสนองความต้องการของครู ตชด. ได้อย่างเหมาะสม มีสมรรถนะและคุณวุฒิที่สามารถพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพเป็นครูมีอาชีพได้ในอนาคต
![](https://thailandinsidenew.com/wp-content/uploads/2020/11/99DB3934-FEAA-48F1-B06D-BCB906F1004B.jpeg)
ผศ.ดร.กฤตวรรณ คำสม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี กล่าวว่า มหาวิทยาลัยได้ออกแบบหลักสูตรและเนื้อหาเหมือนที่ใช้สอนครูทั่วไป แต่ปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นออนไลน์ และ face to face คือ ผู้เรียนต้องเข้าพบอาจารย์ประมาณเทอมละ 2 ครั้ง เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิด ทฤษฏี รับโจทย์ไปลงพื้นที่โรงเรียน เขียนแผนจัดการเรียนรู้และใช้งานจริง บันทึกผลการปฏิบัติ แล้วมาสะท้อนผลร่วมกัน ส่วนอาจารย์จะลงพื้นที่ใช้โรงเรียนเป็นฐานจัดการเรียนการสอน ติดตาม นิเทศก์ วัดผลประเมินแบบบูรณาการตามสภาพจริง มีกิจกรรมเสริมวิชาการเพื่อเตรียมสอบใบประกอบวิชาชีพครู และจัดให้มีศูนย์การเรียนรู้ให้อาจารย์ไปสอนครู ตชด. จากพื้นที่ต่างๆ ร่วมกัน เพื่อสร้างเครือข่ายให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แต่ละบริบทโรงเรียน แม้การออกแบบหลักสูตรที่เหมาะสมกับครู ตชด. จะเป็นเรื่องใหม่ แต่เชื่อว่าเป็นการแก้ไขที่ตรงจุด มีอาจารย์ลงไปช่วยดู ใช้โรงเรียนและการทำงานของครู ตชด. เป็นฐานการเรียนรู้ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพครู ตชด. สามารถเรียนจบปริญญาตรีได้โดยไม่ต้องทิ้งห้องเรียน
![](https://thailandinsidenew.com/wp-content/uploads/2020/11/E3F7AFEB-3046-409C-AA26-5D0D08CA92D7.jpeg)