มหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 ระดับโลกในปีนี้ มีการนำเสนอส่วนลดและสินค้าที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเซลอย่างถล่มทลายของ 11.11 ในวันพรุ่งนี้ เรามาดูไฮไลท์สำคัญบางส่วนที่เกิดขึ้นแล้วในมหกรรมปีนี้กัน
มหกรรม 11.11 ปีนี้ ได้เปลี่ยนรูปแบบจากเดิมที่จัดขึ้นเพียง 24 ชั่วโมง เป็นแคมเปญช้อปปิ้งต่อเนื่องนาน 11 วัน ทั้งนี้ ในระหว่างการประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส เมื่อวันที่ 30 กันยายน แดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอ ของอาลีบาบา กรุ๊ป ได้กล่าวถึงมหกรรม 11.11 ว่า “มหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 ระดับโลก ปีนี้ได้ขยายเวลาจากเดิมที่จัดเพียง 24 ชั่วโมง ออกไปเป็น 11 วัน พร้อมทั้งเพิ่มหน้าต่างช้อปปิ้งเป็น 2 หน้า โดยหน้าต่างช้อปปิ้งแรกจะใช้ในงานช่วงแรกระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน ส่วนหน้าต่างช้อปปิ้งที่ 2 จะเปิดสำหรับวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่เราทำเช่นมีเหตุผลสำคัญคือเราต้องการให้ผู้บริโภคได้ใช้เวลาในการเลือกสินค้าและส่วนลดมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยแบ่งเบาภาระด้านโลจิสติกส์ ทำให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าเร็วขึ้น และได้รับประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดียิ่งขึ้น”
แดเนียล กล่าวต่อว่า “ผู้ขายของเราก็ได้รับประโยชน์จากการเพิ่มหน้าต่างช้อปปิ้ง ซึ่งจำทำให้มีพื้นที่แสดงสินค้าและเพิ่มโอกาสในการขายมากขึ้น เพื่อให้สามารถฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิดที่ผ่านมา งาน 11.11 ในปีนี้จึงเป็นการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ที่มากกว่าแค่การขายสินค้าออนไลน์ธรรมดา”
ในช่วงไตรมาสของเดือนกันยายน ปี 2563 ทีมอลล์ (Tmall)มียอดขายสินค้ารวมทุกหมวดหมู่ (GMV) เติบโตขึ้น 21% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ยอดขายรวมทุกหมวดหมู่ของทีมอลล์ โกลบอล (Tmall Global) เพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนเถาเป่า (Taobao) มียอดขายรวมทุกหมวดหมู่เติบโตราว 19% โดยยอดขายทั้งหมดไม่นับรวมคำสั่งซื้อที่ไม่ได้ชำระเงิน
พร้อมเปิดตัวงานเซลช่วงที่สอง ในมหกรรม 11.11
แบรนด์และผู้ขายที่เข้าร่วมงานในปีนี้ต่างทำงานอย่างหนักเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับงาน 11.11 วันจริง ซึ่งจะมีการเปิดหน้าต่างช้อปปิ้งที่สองในวันที่ 11 พฤศจิกายน โดยมีสินค้าลดราคาจำหน่ายมากกว่า 16 ล้านรายการ ที่มาพร้อมราคาพิเศษและมีโปรโมชั่นมากยิ่งกว่างานเซลในช่วงแรก
ในจำนวนสินค้าพิเศษเหล่านี้ มีสินค้ามากกว่า 1 ล้านรายการเป็นสินค้านำเข้าที่ชาวจีนนิยม โดยแบรนด์ต่างๆ ได้สต็อกสินค้าจากคลังทั่วโลกเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการซื้อของผู้บริโภคชาวจีนในงานนี้ นอกจากนี้ยังมีสินค้ามากว่า 3 ล้านรายการที่เข้าร่วมมหกรรม 11.11 เป็นครั้งแรก ช่วงที่สองของมหกรรม 11.11 จึงมีกองทัพสินค้าราคาพิเศษรออยู่อีกมากมาย และพลาดไม่ได้อย่างยิ่ง
เคที เพร์รี (Katy Perry) ขึ้นโชว์ในงานกาล่า 11.11 ของอาลีบาบา
งานกาล่า 11.11 จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 โดยในปีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายน เวลา 19.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ อารีน่า ในเซี่ยงไฮ้ และถ่ายทอดสดผ่าน Youku และ Dragon TV โดยทั้งเคที เพร์รี และงานกาล่า 11.11 ได้ประกาศผ่านหน้าแอคเคาท์อย่างเป็นทางการบนเวยป๋อ (Weibo) ว่าการแสดงในปีนี้จะเป็นโชว์ที่เปี่ยมด้วยพลัง ซึ่งแฟนคลับชาวจีนของเคทีต่างเฝ้ารอชมในค่ำคืนนี้
ทั้งนี้งานกาล่า 11.11 จะถ่ายทอดสดผ่าน YouKu, เถาเป่า ไลฟ์, Dragon TV และสถานีโทรทัศน์เจ้อเจียง จึงเข้าถึงประเทศต่างๆ มากกว่า 200 ประเทศในภูมิภาคทั่วโลก
แบรนด์ต่างประเทศชื่อดัง ต่างเตรียมพร้อมสำหรับช่วงเวลาสำคัญของมหกรรม
แม้ว่าการเดินทางไปต่างประเทศจะถูกจำกัดเนื่องจากเกิดโรคระบาด แต่การจับจ่ายใช้สอยสินค้าราคาแพงเริ่มฟื้นตัวแล้วในจีน โดยหลังจากช่วงพรีเซลและช่วงแรกของของมหกรรม 11.11 แบรนด์ต่างประเทศชื่อดังต่างเริ่มทยอยสต็อกสินค้า และเตรียมนำเสนอสินค้าที่น่าสนใจให้กับผู้บริโภคชาวจีนในงานเซลช่วงที่สอง
ตัวอย่างเช่น โคลเอ้ (Chloé) แบรนด์แฟชั่นสตรีชื่อดังจากฝรั่งเศส ได้เข้าร่วมมหกรรม 11.11 เป็นครั้งแรก สามารถขายกระเป๋ารุ่นยอดนิยมหมดอย่างรวดเร็วในระหว่างช่วงพรีเซลในวันที่ 21 ตุลาคม จนถึงงานเซลช่วงแรกในวันที่ 1 พฤศจิกายน และเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการงานเซลช่วงที่สองในวันที่ 11 พฤศจิกายน โคลเอ้ได้ทำงานอย่างเต็มที่ในการปรับสต็อกสินค้ายอดนิยมให้เพียงพอกับความต้องการ
บาเลนเซียก้า (Balenciaga) เป็นอีกแบรนด์ที่เข้าร่วมงานในปีนี้เป็นครั้งแรก ก็สามารถขายสินค้าหมดหลายรายการตั้งแต่วันแรกของงานเซลคือวันที่ 1 พฤศจิกายน
ส่วนแบรนด์ชื่อดังอื่นๆ ก็มียอดขายที่ดีเช่นกัน อาทิ เฟอร์ล่า (Furla) ทำยอดขายในงานเซลชั่วโมงแรกได้มากกว่ายอดขายต่อวันของเดือนกันยายนและตุลาคมถึง 20 เท่า ส่วนบัลลี่ย์ (Bally) ทำยอดขายต่อวันได้มากกว่าปกติถึง 60 เท่า
โรงแรม 5 ดาว มีผลตอบรับอย่างน่าทึ่งบนฟลิกกี้
เมื่อการท่องเที่ยวภายในประเทศเริ่มฟื้นตัว ทำให้เครือโรงแรมระดับโลกในจีนมียอดขายที่น่าประทับใจบนฟลิกกี้(Fliggy) โดยในช่วงแรกของมหกรรม 11.11 มียอดซื้อแพคเกจห้องพักกว่า 600,000 ห้องจากเครือโรงแรม เช่น Accor, Marriot, Hyatt, Hilton, InterContinental, Shangri-La และเครือโรงแรม 5 ดาวอื่นๆ
เครือโรงแรมระดับโลกอย่าง Marriott และ Accor ทำยอดขายในมหกรรม 11.11 ได้เกิด 1,000 ล้านหยวน หรือ 150 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4,600 ล้านบาท) เป็นครั้งแรกส่วนโรงแรมในเครือ Hyatt กว่า 80 แห่งสามารถขายคูปองลดราคาสำหรับดีลห้องพัก 2 คืน ได้มากกว่า 28,000 ใบ ในขณะที่โรงแรมในเครือ Hilton ทั่วประเทศจีนสามารถขายได้มากกว่า 25,000 ดีล นอกจากนี้ยังมีแพ็คเกจยอดนิยมที่ขายหมดตั้งแต่งานเซลในช่วงเวลาแรก เช่น แพ็คเกจดิสนีย์ รีสอร์ท เซี่ยงไฮ้มูลค่า 1,499 หยวนหรือ 227 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6,900 บาท) และแพ็คเกจโรงแรม InterContinental One Thousand Island Lake Resort มูลค่า 999 หยวนหรือ 150 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4,600 บาท)
แบรนด์โรงแรมระดับโลกไม่เพียงแต่นำเสนอห้องพักใหม่ๆ ในช่วง 11.11 แต่ยังลดราคาที่พักเป็นพิเศษสำหรับงานนี้ด้วย โดยบางแห่งลดราคาห้องพักลงถึง 30% จากราคาปกติ
ร้านแฟล็กชิพ Apple บนทีมอลล์ เปิดให้สั่งสินค้าล่วงหน้า
เมื่อเที่ยงวันของวันที่ 5 พฤศจิกายน ร้านแฟล็กชิพ Apple บนทีมอลล์ ได้เปิดตัวไอโฟน 12 และติดเทรนด์ยอดนิยมบนเว่ยป๋อ โดย Apple นำไอโฟน 12 ซึ่งเป็นสินค้ารุ่นใหม่ล่าสุดและสินค้าในซีรี่ส์เดียวกัน ได้แก่ ไอโฟน 12 มินิ และไอโฟน 12 โปรแม็กซ์ มาเปิดพรีเซลผ่านร้านแฟล็กชิพบนทีมอลล์และเว็บไซต์ทางการจอง Apple ตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายนเป็นต้นมา
ทีมอลล์ โกลบอลนำ อินฟลูเอนเซอร์ อีเว้นท์ “ Walk of Fame” กลับมาจัดอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่กว่าเดิม
จากผลตอบรับอย่างล้นหลามเมื่อปีที่ผ่านมา ทีมอลล์โกลบอล จึงนำอินฟลูเอนเซอร์ อีเว้นท์ ในชื่อ “Walk of Fame” กลับมาจัดอีกครั้งพร้อมทั้งเอาใจเหล่าสาวก ด้วยทัพอินฟลูเอนเซอร์แถวหน้ามากมาย
นักร้องซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่างเทเลอร์ สวิฟต์ และนักกีฬาบาสเก็ตบอลในตำนานอย่างแมจิก จอห์นสัน รวมถึงซูเปอร์โมเดล มิแรนด้า เคอร์ ก็จะเข้าร่วมงาน 11.11 ในครั้งนี้ผ่านการถ่ายทอดไลฟ์ในรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟ เพื่อพูดคุยกับแฟนๆ ชาวจีนอย่างใกล้ชิด
สินค้าเกษตรจากทั่วโลก พร้อมเสิร์ฟในงาน 11.11
สินค้าเกษตรเป็นไฮไลท์สำคัญของงาน 11.11 มาโดยตลอด ในปีนี้ก็เช่นเดียวกัน ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อทับทิมจากมณฑลฝู่เจี้ยน และส้มจากมณฑลยูนนาน รวมถึงมันฝรั่งจากมณฑลกานซู และสินค้าเกษตรจากทั่วประเทศจีนมากมายได้บนทีมอลล์
นอกจากนี้ ยังมีสินค้าเกษตรจากทั่วทุกมุมโลก เช่น เชอร์รี่จากประเทศชิลี ซึ่งส่งตรงมายังเซี่ยงไฮ้โดยใช้เวลา 56 ชั่วโมง และสเต็กจากรัสเซียที่ถูกเก็บรักษาที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียสผ่านบริการโลจิสติกส์ควบคุมความเย็นจากวลาดีวอสตอค ในรัสเซีย เพื่อจำหน่ายให้ผู้บริโภคชาวจีนถึงที่
