พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการจัดการเรียนร่วม และพิธีมอบทุนการศึกษา ณ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ)
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการจัดการเรียนร่วม และพิธีมอบทุนการศึกษา ของมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ) พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ “ต้นแบบนวัตกรรมในการจัดการเรียนร่วม” (Innovation in Inclusive Education)
โดยพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ในวันนี้ เกิดขึ้นจากการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การศึกษาโดยเฉพาะในเรื่องการจัดการเรียนร่วม จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่มีความเกี่ยวข้อง นอกจากนี้แล้ว การร่วมมือกันเพื่อพัฒนาครู และบุคลากรให้มีความรู้ และทักษะในการสอนนักเรียนที่มีความพิการทางการเห็นในชั้นเรียนร่วม การร่วมกันสร้างสรรค์เทคโนโลยีอำนวยความสะดวก และนวัตกรรมสนับสนุนการเรียนร่วม รวมทั้งการพัฒนาระบบการสนับสนุนนักเรียนพิการ (Disability Support System: DSS) ในโรงเรียนเรียนร่วม จะเป็นการสร้างรูปแบบการจัดการเรียนร่วม ที่สามารถเปิดโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียนทุกคนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ยังมีการมอบทุนการศึกษาให้กับสถาบันการศึกษาของผู้พิการทางการเห็นทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการจัดหา สื่อ อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อการพัฒนาการศึกษา การจัดกิจกรรม โครงการ หรือแผนพัฒนาเพื่อส่งเสริมการศึกษาสำหรับนักเรียนผู้พิการทางการเห็น
การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือส่งเสริมสนับสนุนแก่ผู้พิการทางการเห็น ซึ่งอยู่ในความดูแลของมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยฯ และองค์กรด้านการศึกษาของผู้พิการทางการเห็นทั่วประเทศ ได้มีแรงกายแรงใจต่อสู้และดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เฉกเช่นคนปกติทั่วไป และหากประชาชนผู้มีจิตศรัทธา มีความประสงค์จะบริจาคเงินทุนสนับสนุนกิจกรรมการดำเนินงานของมูลนิธิฯ สามารถบริจาคได้หลากหลายช่องทาง ทั้งที่มูลนิธิฯ หรือการโอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากของมูลนิธิฯ ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสีลม เลขที่ 022-1-33700-8 โดยดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.blind.or.th หรือสอบถามทาง e-mail : service@blind.or.th และโทรศัพท์ 0-2354-8365-8 โทรสาร 0-2354-8369
เกี่ยวกับมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่มุ่งให้ความช่วยเหลือคนพิการทางการเห็น โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ และศาสนา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2482 นับจนถึงปัจจุบันเป็นระยะ เวลากว่า 81 ปี และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงรับไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เมื่อปี พ.ศ. 2502 นับเป็นมูลนิธิแห่งแรก มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือคนพิการทางการเห็น ในด้านการศึกษาและการฝึกอาชีพ การพัฒนาสมรรถภาพ ความรู้ความสามารถและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้คนพิการทางการเห็นได้มีโอกาสที่ดี สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีเกียรติและมีความสุขเช่นคนสายตาปกติทั่วไป เพื่อให้การดำเนินงานของมูลนิธิฯ เป็นไปตามวัตถุประสงค์และมีการขยายงานมากขึ้น มูลนิธิฯจึงได้ขยายส่วนงานออกไปอีก 5 ส่วน คือ
1. โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ รับนักเรียนตาบอดทั้งประจำและไปกลับ ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล-ประถมศึกษาปีที่ 6 อายุระหว่าง 6-12 ปี ต่อมาได้ขยายการ ศึกษาโดยจัดโครงการเรียนร่วม ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น-มัธยมศึกษาตอนปลาย ส่งนักเรียนตาบอดเข้าเรียนร่วมกับนักเรียนสายตาปกติในสถาบันการศึกษาต่างๆ โดยมูลนิธิฯ เป็นผู้จัดหาครูเสริมวิชาการ และอุปกรณ์ที่ช่วยสนับสนุนการเรียนการสอนของนักเรียนผู้พิการทางการเห็น
2. ศูนย์พัฒนาสมรรถภาพคนตาบอด รับนักเรียนตาบอดชาย อายุ 15 ปี ขึ้นไป จุดประสงค์เพื่อช่วยฝึกอบรมคนพิการทางการเห็นให้มีอาชีพ พัฒนาความสามารถที่จำเป็นเพื่อการดำรงชีวิตที่ดี อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรีในสังคม วิชาที่สอนมีวิชาสามัญ และวิชาชีพ วิชาชีพ เช่น การนวดแผนไทย การเกษตร การเลี้ยงสัตว์ และงานหัตถกรรม และศูนย์ฯ ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขให้เป็นหน่วยงานทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ด้านการนวดแผนไทย
3. ศูนย์ฝึกอาชีพหญิงตาบอดสามพราน รับนักเรียนตาบอดหญิงอายุ 15 ปี ขึ้นไป โดยมีการอบรมหลักสูตรทั้งระยะสั้นระยะยาว มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยสตรีตาบอดพัฒนาความสามารถที่จำเป็นเพื่อการดำเนินชีวิตเหมือนบุคคลทั่วๆ ไป สามารถใช้ทักษะที่ได้รับการฝึกสอนและฝึกฝน ทั้งทางงานอาชีพ และงานฝีมือมาช่วยเหลือตนเอง โดยไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่น
4. ศูนย์พัฒนาอาชีพคนตาบอด มีจุดประสงค์เพื่อเป็นสถานที่ทำงานชั่วคราวของคนตาบอดที่ผ่านการฝึกอบรมขั้นพื้นฐานมาแล้วจากสถาบันคนตาบอดทั่วประเทศ เพื่อให้คนตาบอดมีประสบการณ์และความชำนาญมากขึ้น กิจกรรมหลักของศูนย์ฯ คือ การฝึกอบรมคนตาบอดในด้านวิชาชีพช่างไม้ เป็นอาชีพที่ทางศูนย์ฯ เน้นหนัก เนื่องจากเป็นงานที่คนตาบอดสามารถทำได้เองถึง 90% และประดิษฐ์เพื่อจำหน่ายเป็นอาชีพ มีงานทำ มีรายได้ สามารถเลี้ยงตนเอง และครอบครัวได้ไม่เป็นภาระผู้อื่น และสินค้าที่ผลิตซึ่งเป็นงานฝีมือของคนตาบอดจากศูนย์พัฒนาอาชีพเป็นที่ยอมรับว่ามีคุณภาพเท่าเทียมคนตาดีผลิต
5. ศูนย์เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อคนตาบอด งานหลัก คือ การผลิตสื่อให้แก่คนตาบอด ทั้งหนังสือเบรลล์ หนังสือเสียงในรูปแบบต่างๆ เพื่อการศึกษาของคนตาบอด และผลิตหนังสือเรียนให้กับนักเรียนตาบอดทั่วประเทศ และการบริการด้านห้องสมุดให้บริการแก่สมาชิกทั่วประเทศ รวมถึงการผลิตหนังสือสาระน่ารู้ หรือหนังสือที่ส่งเสริมด้านจริยธรรมคุณธรรม เพื่อแจกให้กับองค์กรคนตาบอดทั่วประเทศ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
ขณะนี้มูลนิธิฯ ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการศึกษาของเด็กนักเรียน (ทั้งประจำ และไปกลับ) จนจบการศึกษาสูงสุดระดับปริญญาตรี และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพสำหรับคนพิการทางการเห็นอีก 4 ศูนย์ ซึ่งมีนักเรียน ครู บุคลากรและเจ้าหน้าที่ที่มูลนิธิฯ ต้องดูแลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายจำนวนทั้งสิ้น 500 คน มูลนิธิฯได้รับความช่วยเหลือตามกฎหมายจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนกระทรวงศึกษาธิการ ตามจำนวนนักเรียนในโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ เป็นเงินเพียงเดือนละ 300,000 บาทเศษ สำหรับส่วนงานอื่นๆ อีก 4 แห่ง มูลนิธิฯ เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยมูลนิธิฯ มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการได้รับบริจาคของผู้มีจิตศรัทธา ซึ่งมูลนิธิฯได้บริหารงานด้วยความประหยัด โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้จนถึงปัจจุบันอย่างประคับประคองเพื่อให้การช่วยเหลือคนพิการทางการเห็นได้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพครบถ้วนสมบูรณ์ในทุกด้าน