วันที่ 6 ธันวาคม 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เยี่ยมชมบูธ GI Pavilion ในงาน THAILAND RICE FEST 2025 และงาน THAILAND COFFEE FEST YEAR END 2025 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี เพื่อให้กำลังใจผู้ประกอบการ GI ไทย พร้อมเดินหน้าเพิ่มรายได้สินค้า GI และขยายโอกาสเจรจาซื้อขายสินค้าเพื่อเปิดตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายสำคัญในการเร่งผลักดันการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อเสริมแกร่งผู้ประกอบการและเกษตรกรท้องถิ่น ผ่านการขึ้นทะเบียนสินค้า GI การควบคุมคุณภาพ ตลอดจนส่งเสริมและขยายช่องทางการตลาด โดยปัจจุบันสินค้า GI ไทย 244 รายการ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 114,331 ล้านบาท ด้วยอัตลักษณ์อันโดดเด่นที่เชื่อมโยงกับปัจจัยทางภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ทำให้สินค้า GI แต่ละรายการมีเรื่องราวและเสน่ห์เฉพาะตัว อีกทั้งยังมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้า GI ในกลุ่ม “ข้าว” และ “กาแฟ” ที่สร้างชื่อเสียงและทำรายได้เข้าสู่ประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้สินค้า GI เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

นางศุภจี กล่าวว่า สำหรับบูธ GI Pavilion ในงาน THAILAND RICE FEST 2025 และงาน THAILAND COFFEE FEST YEAR END 2025 เกิดจากความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา และบริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด (The Cloud) นำผู้ประกอบการสินค้า GI และว่าที่ GI รวม 12 รายมาร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า นับเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้เกิด Quick Big Win ในการเสริมแกร่งผู้ประกอบการและเพิ่มมูลค่าสินค้า GI ไทย ทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ โดยในงานมีประชาชน ผู้ค้า นักลงทุน ทั้งชาวไทยและต่างชาติ แวะมาที่บูธ GI Pavilion เป็นจำนวนมาก เพื่อเยี่ยมชมและเลือกซื้อสินค้าข้าวและกาแฟ GI ไม่ว่าจะเป็นข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ (ศรีสะเกษ) ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ ข้าวก่ำล้านนา (พะเยา) ข้าวไร่ลืมผัวเพชรบูรณ์ ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์ กาแฟดอยตุง (เชียงราย) กาแฟดอยสวนยาหลวงน่าน กาแฟเทพเสด็จ (เชียงใหม่) กาแฟวังน้ำเขียว (นครราชสีมา) และกาแฟเมืองกระบี่ รวมทั้งสินค้าว่าที่ GI กาแฟมณีพฤกษ์ (น่าน)

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ กิจกรรม Rice Matching สำหรับให้ธุรกิจ ร้านอาหาร และโรงแรม ได้มาทดลองชิมข้าวไทยสายพันธุ์พิเศษ เพื่อทำการสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าจากผู้ประกอบการโดยตรง โดยกิจกรรมดังกล่าวมีผู้ประกอบการข้าว GI เข้าร่วม 5 ราย ได้แก่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ (ศรีสะเกษ) ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ ข้าวก่ำล้านนา (พะเยา) และข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์ กิจกรรมชิมข้าวและเล่าเรื่องข้าวไทยสายพันธุ์ต่างๆ

โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวและเสน่ห์ข้าว GI 10 รายการ ได้แก่ ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ (ศรีสะเกษ) ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์ ข้าวก่ำล้านนา (พะเยา) ข้าวไร่ลืมผัวเพชรบูรณ์ ข้าวเหนียวแดงเมืองเลย ข้าวหอมกระดังงานราธิวาส ข้าวหอมใบเตยนครสวรรค์ และข้าวไร่หอมหัวบอนกระบี่ กิจกรรมชิมกาแฟ GI ในโซนจัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากาแฟและอุปกรณ์การชง ที่ชวนคอกาแฟทุกคนมาดื่มด่ำไปกับรสชาติและเรื่องราวของเมล็ดกาแฟไทย เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมต่างๆ ช่วยสร้างรายได้และเผยแพร่อัตลักษณ์สินค้าข้าวและกาแฟ GI ไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยงาน THAILAND RICE FEST 2025 และงาน THAILAND COFFEE FEST YEAR END 2025 จะจัดไปจนถึงวันที่ 7 ธันวาคม 2568 ซึ่งผู้ที่สนใจยังสามารถแวะมาเยี่ยมชมและอุดหนุนสินค้า GI ได้ที่ GI Pavilion บูธ G01 ฮอลล์ 11-12 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น.


ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ยังคงมุ่งมั่นลงพื้นที่เพื่อส่งเสริมการขึ้นทะเบียนสินค้าเกษตรที่มีอัตลักษณ์ของชุมชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้าตามมาตรฐาน GI เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังพัฒนาต่อยอดสินค้า GI โดยการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และขยายช่องทางการจำหน่ายทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งเกษตรกรหรือชุมชนท้องถิ่นที่สนใจนำสินค้าที่มีอัตลักษณ์เชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์และภูมิปัญญาดั้งเดิมมาขึ้นทะเบียน GI สามารถปรึกษาและรับคำแนะนำได้ที่ศูนย์ IP One ชั้น 3 กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 1368

