สมัชชานครแห่งความสุข ประจำปี 2568 คึกคัก ภาคประชาชน 45 เครือข่ายฯ กว่าพันคน ยื่นข้อเสนอ 6 ด้าน ถึงรองนายกธรรมนัส ผ่านนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รมช.เกษตรฯ ชงตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการตามข้อเสนอของภาคประชาชน

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2568 ที่ อาคารไทยบุรี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช เครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีการร่วมกันจัดงานสมัชชานครแห่งความสุข ประจำปี 2568 โดยมีประชาชนในจังหวัดนครศรีฯ เข้าร่วมกว่า 1,000 คน หน่วยงานภาครัฐจาก 4 กระทรวง คือ เกษตร พัฒนาสังคม สาธารณสุข และท่องเที่ยวฯ ส่วนราชการในจังหวัดนครศรีฯ ผู้ว่าราชการจังหวัด นำหน่วยงานเข้าร่วม กว่า 15 หน่วยงาน มีการจัดนิทรรศการจากเครือข่ายและทำอาหารแบบข้าวหม้อแกงหม้อมารับประทานอาหารร่วมกัน โดยในช่วงท้ายกิจกรรมเครือข่ายได้ยื่นข้อเสนอ ในการเร่งสร้างความมั่นคงให้กับประชาชนในจังหวัดนครศรีฯ ทั้งหมด 6 ด้านคือ ข้อเสนอด้านความมั่นคงทางสุขภาพ ความมั่นคงทางทรัพยากรฯ ความมั่นคงของมนุษย์ ความมั่นคงทางอาหาร ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชุมชน และความมั่นคงในชีวิตของกลุ่มประชากรกลุ่มเปราะบาง และข้อเสนอประกอบคือ ให้ทางรองนายกฯธรรมนัส พรหมเผ่า ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนข้อเสนอทั้ง 6 ด้าน โดยให้มีผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธาน และมีหน่วยงานภาครัฐกับภาคประชาชนในจังหวัดนครศรีฯ เป็นกรรมการ

นายเจกะพันธ์ พรหมมงคล ผู้ประสานงานสมัชชานครแห่งความสุข ได้กล่าวว่า ด้วยจังหวัดนครศรีฯ ในปัจจุบัน มีสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงหลายประการ ทั้งการเพิ่มขึ้นการใช้สารเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร การระบาดของเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การลดลงของพื้นที่ผลิตอาหารและมีอาหารที่ปนเปื้อนไปด้วยสารเคมี ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งในลุ่มน้ำสายหลักและทางทะเล การเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้น ถี่มากขึ้น การไม่มีที่ดินทำกินและมีที่อยู่อาศัยที่ชำรุดทรุดโทรม รายได้เฉลี่ยของครัวเรือนที่ลดลง จนทำให้จังหวัดนครศรีฯ มีคนยากจนเป็นลำดับที่ 2 ของประเทศ จึงส่งผลให้จังหวัดนครศรีฯ ถูกจัดลำดับให้เป็นจังหวัดที่มีความสุขเป็นลำดับที่ 72

ด้านนายกันตณัช รัตนวิก ผู้แทนประเด็นความมั่นคงทางสุขภาพ ด้านการลดปัจจัยเสี่ยง (เหล้า บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า สารเสพติด โรคติดต่อทางเพสสัมพันธ์ การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร) กล่าวว่า สถานกาณ์ด้านปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพในกลุ่มเด็กและเยาวชนของจังหวัดนครศรีฯ อยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก เช่นในกรณีของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบว่ามีอัตราการเพิ่มขึ้นของนักดื่มที่มีอายุระหว่าง 15-19 ปีและจากการสำรวจนักเรียนอายุ 15 ปี ของโรงเรียนมัธยม 63 โรงเรียนในจังหวัดนครศรีธรรมราช 1,828 ตัวอย่าง พบว่าร้อยละ 38.2 มีพฤติกรรมเสี่ยงยุ่งเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 35.9 มีคนในครอบครัวดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนด้านการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ในจังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่ามีวัยรุ่นที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ไม่พร้อมและตั้งครรภ์ซ้ำ ร้อยละ 70-90 เลือกยุติการตั้งครรภ์ ด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช พบผู้ติดเชื้อ HIV ยังมีชีวิตสูงสุดภาคใต้ จำนวน 8,896 ราย นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่ามีผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ที่มีอายุเพียง 12 ปี ด้านสารเสพติด พบว่าอายุเฉลี่ยที่เริ่มใช้ยาเสพติด มีอายุเฉลี่ยประมาณ 15 ปีเท่านั้น ส่วนแนวโน้มของจำนวนผู้ใช้ยาเสพติดพบว่ามีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนที่เพิ่มขึ้นพบว่าเป็นกลุ่มเด็กละเยาวชนเป็นหลัก และด้านบุหรี่ไฟฟ้า ก็พบการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของเด็กและเยาวชน โดยพบว่าความรุนแรงเริ่มตั้งแต่เด็กนักเรียนและนักศึกษา โดยนักเรียนอยู่ในช่วงวัยของระดับประถมปลายจนถึงนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และจังหวัดนครศรีธรรมราชมีอัตราการสูบบุหรี่เป็นอันดับต้นๆของประเทศ โดยล่าสุด (พ.ศ.2567) มีอัตราการสูบบุหรี่สูงถึงร้อยละ 25.59 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ

ดังนั้นในงานสมัชชานครแห่งความสุขในครั้งนี้ ทางเครือข่ายความมั่นคงทางสุขภาพ ด้านการลดปัจจัยเสี่ยงในกลุ่มเด็กและเยาวชน จึงได้เสนอให้รองนายกรัฐมนตรี ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งกำกับกระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดนโยบายให้สถานศึกษาทั่วประเทศ เป็น “สถานศึกษาเสริมปัจจัยสร้าง-ลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ” โดยให้มีพื้นที่ปฏิบัตินำร่อง จำนวน 50 โรงเรียน ในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยให้มีการพัฒนาทักษะให้แก้ผู้บริหาร ครูผู้สอน และสนับสนุนงบประมาณให้นักเรียนในทุกโรงเรียนได้ดำเนินการด้านการลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ

โดยในช่วงท้าย นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าว่า ในเบื้องต้นจะรับทุกข้อเสนอและทุกแนวทางการปฏิบัติที่ทางเครือข่ายภาคประชาชนได้เสนอมา ไปนำเรียนกับรองนายกรัฐมนตรี ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า และมอบหมายให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และหน่วยงานทั้ง 4 กระทรวง และจะตั้งเป็นคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนงานทั้ง 6 ประเด็น โดยให้มีทั้งภาครัฐและภาคประชาชน เพื่อร่วมกันหาทางออกและเร่งดำเนินการให้เห็นผลโดยเร็ว

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *