สสส. และภาคีเครือข่ายภาคอีสาน จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อถอดบทเรียนและหาแนวทางแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน

สสส. และภาคีเครือข่ายภาคอีสาน จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อถอดบทเรียนและหาแนวทางแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ชี้ สภาพแวดล้อมชุมชน-ครอบครัว มีอิทธิพลทำให้ผู้ป่วยกลับไปใช้ยาเสพติดซ้ำ ชูกุญแจสำคัญแก้ปัญหา ‘ชุมชนต้องมีความเข้มแข็ง’

เมื่อเร็วๆนี้ ที่โรงแรมอวานี ขอนแก่น แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพอำเภอต้นแบบและอำเภอขยายผลในการขับเคลื่อน ‘ชุมชนล้อมรักษ์’ (CBTx) โดยมีเป้าหมายเพื่อให้หน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการจากแต่ละอำเภอทั่วภาคอีสานได้แลกเปลี่ยนเครื่องมือ ถอดบทเรียน และสร้างกลไกในการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนภายใต้โครงการ CBTx

นายพิทยา จินาวัฒน์ กรรมการบริหารแผนคณะ 1 สสส. กล่าวว่า โครงการชุมชนล้อมรักษ์ หรือ CBTx เป็นโครงการที่มาจากแนวคิดการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ประกอบด้วย การป้องกัน การเฝ้าระวัง การบำบัดฟื้นฟู และการช่วยเหลือผู้ที่ผ่านการฟื้นฟูให้กลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ โดยมีหลักการคือการใช้ชุมชนเป็นฐาน (Community-based) ชุมชนจะเข้าใจปัญหายาเสพติดและปัญหาพื้นฐานอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุได้ดีที่สุด พวกเขารู้ว่าใครคือกลุ่มเสี่ยง และมีทรัพยากรหรือ ‘ทุนทางสังคม’ อะไรในพื้นที่ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ และการมีส่วนร่วมจากหลายภาคส่วน โดยโครงการอาศัยกลไกของคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ซึ่งประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำรวจ และภาคประชาชน ทำให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ

“สำหรับการทำงานของชุมชนกับการแก้ปัญหายาเสพติดจะต้องมีความ ‘ครอบคลุม’ ทั้ง การป้องกันและเฝ้าระวัง,​การปราบปรามเบื้องต้น และการบำบัดฟื้นฟู ซึ่ง สสส.จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานสนับสนุนทั้งด้านวิชาการ การพัฒนานวัตกรรม และเสริมสร้างขีดจำกัดของคนทำงานในชุมชนเพื่อให้โครงการดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ”นายพิทยา กล่าว

ในการประชุมครั้งนี้ มีการยกกรณีศึกษาอำเภอต้นแบบที่นำโครงการ CBTx ไปปรับใช้จนได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ คือ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น โดย นายกรชาลวิชญ์ ชัยพีรวัส นายอำเภอน้ำพอง ได้อธิบายว่า ชุมชนของตนมีการแก้ไขปัญหายาเสพติด 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ระดับอำเภอ และระดับหมู่บ้าน

ระดับอำเภอ มี ‘โครงการบ้านห่วงใย’ เพื่อรองรับผู้ที่ใช้ยาเสพติดจนมีอาการคุ้มคลั่ง หรือมีพฤติกรรมที่เป็นอันตราย โดยผู้ป่วยจะอยู่ภายใต้การคัดกรองของโรงพยาบาลและได้รับการดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันรองรับได้ 50 คน

ระดับหมู่บ้าน ได้นำโครงการ CBTx มาดัดแปลงให้เข้ากับบริบทของชุมชน โดยคัดกรองผ่านการตรวจปัสสาวะ หากครัวเรือนใดไม่พบสารเสพติดจะได้รับ ‘ธงขาว’ แต่หากพบผู้ใช้ยาเสพติด จะต้องเข้าสู่กระบวนการบำบัดในชุมชนเป็นเวลา 15 วัน ผ่านการดูแลของคณะกรรมการหมู่บ้าน

“การนำ CBTx มาประยุกต์ใช้ เพราะเรามองว่าชุมชนสามารถดูแลผู้ใช้ยาเสพติดได้ดีที่สุด ในระหว่างการบำบัด เราจะเน้นให้ผู้ป่วยมีปฏิสัมพันธ์กับคนในหมู่บ้านเพื่อละลายพฤติกรรม ทำให้ผู้ป่วยไว้ใจชุมชน ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้ทั้งในระหว่างและหลังการบำบัด” นายอำเภอน้ำพอง กล่าว

นายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต ชี้ว่า ภาพรวมสถานการณ์ยาเสพติดในภาคอีสานยังคงเป็นปัญหาที่ ‘แก้ไม่ตก’ เนื่องจากผู้ป่วยมักกลับไปใช้ยาซ้ำ ขณะที่ผู้ใช้ยารายใหม่ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ปัจจัยสำคัญคือสภาพแวดล้อมที่ผู้ป่วยกลับไปอยู่หลังการบำบัด ดังนั้น ชุมชนจึงต้องมีระบบการดูแลที่เข้มแข็ง เช่น การจัดกิจกรรมประจำสัปดาห์ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเตือนสติตัวเองอยู่เสมอ เราควรเปลี่ยนจากการเยี่ยมบ้านเป็นการติดตามดูแลอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ และต้องเน้นให้ผู้ป่วยมีอาชีพสร้างรายได้ ซึ่งจะทำเช่นนั้นได้ ชุมชนต้องเข้มแข็ง” นายแพทย์ยงยุทธกล่าว

นายแพทย์ยงยุทธ เน้นย้ำว่า นอกจากชุมชนแล้ว ครอบครัวยังเป็นอีกปัจจัยที่มีอิทธิพลอย่างสูงต่อการตัดสินใจกลับไปใช้ยาซ้ำของผู้ป่วย ท่าทีของครอบครัวจึงควรเป็นการสนับสนุนและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี สำหรับชุมชนต้นแบบที่ใช้กลไก CBTx ได้สำเร็จนั้น มักจะเป็นชุมชนที่สามารถลดปัญหาได้เกินกว่า 50% และเมื่อทำสำเร็จในพื้นที่หนึ่งแล้ว ก็จะสามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไปได้

“การประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อนำหน่วยงานต่างๆ ทั้งอำเภอ ตำรวจ สาธารณสุข และชุมชน มาเรียนรู้วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศจากพื้นที่ต้นแบบ เพื่อให้แต่ละชุมชนได้ประเมินตนเอง มองเห็นช่องว่าง และนำแผนงานของชุมชนต้นแบบไปปรับใช้ให้ประสบความสำเร็จได้” นายแพทย์ยงยุทธ ทิ้งท้าย

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *