ในวาระครบรอบ 130 ปีกระทรวงยุติธรรม อยู่เคียงข้างประชาชนมาโดยตลอด ภายใต้นโยบาย “ยุติธรรมสร้างสุข ยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้แก่ประชาชน” โดย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ได้เปิดเผยถึงผลงานการให้บริการประชาชนว่า ในปีที่ผ่านมาดีเอสไอได้ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ติดตามทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด เพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินไปกว่า 1 พันล้านบาท
ขณะที่การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ก็ได้เร่งรัดป้องกันและปราบปรามมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการดำเนินคดีและบังคับใช้กฎหมาย โดยในปีที่ผ่านมามีคดีสำคัญ คือ การจับกุมเครือข่ายนายหน้า จัดหาหญิงไทยไปบังคับค้าประเวณี ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ภายหลังได้รับแจ้งว่ามีหญิงไทย 6 รายตกเป็นเหยื่อ คดีนายดนุเดช แสงแก้ว หรือนุ หรือเนเน่ โมเดลลิ่งเด็ก ซึ่งพบว่าเกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กหลายพันราย
ทั้งนี้ดีเอสไอยังได้นำระบบเทคโนโลยี สนับสนุนกระบวนการสืบสวนสอบสวนมาใช้กับประชาชนผู้เสียหาย ถูกหลอกให้ลงทุนซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ (Forex) โดยพนักงานสอบสวน ใช้ระบบดังกล่าว นัดหมายวันเวลา เพื่อสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อ อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนลดระยะเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการ ตามนโยบายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่ต้องการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ และให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม