อาลีบาบา ทำสถิติยอดขายรวมจากทุกช่องทาง 498,200 ล้านหยวน ในมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ปี 2563 มีมากกว่า 470 แบรนด์ที่ทำยอดขายได้เกิน 100 ล้านหยวน ในช่วง 11 วันของการจัดงาน
12 พฤศจิกายน 2563 – อาลีบาบา กรุ๊ป ประกาศสถิติยอดขายจากมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ปี 2563 รวมทั้งสิ้น 498,200 ล้านหยวน (ราว 2,278,000 ล้านบาท) ซึ่งรวบรวมจากยอดขายทุกช่องทาง (GMV) ในช่วงการจัดงาน 11 วัน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเป็นยอดขายที่เติบโตขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562
เจียง ฟาน ประธานบริหารของเถาเป่าและทีมอลล์ กล่าวว่า “ตลอดเวลา 12 ปีที่ผ่านมา นวัตกรรมถือเป็นหัวใจสำคัญของงาน 11.11 จนทำให้งานนี้กลายเป็นมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลกในปัจจุบัน มหกรรม 11.11 เกิดขึ้นได้ก็เพราะผู้บริโภค ร้านค้า และพันธมิตรในอีโคซิสเท็มของเรา และที่ขาดไม่ได้คือการสนับสนุนจากสังคม อาลีบาบาจะเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อนำเสนอบริการต่างๆ ที่ช่วยสนับสนุนร้านค้าและแบรนด์ทุกระดับ ในการเดินทางไปสู่ความสำเร็จในเศรษฐกิจดิจิทัลนี้”
ในปีนี้ มีแบรนด์มากกว่า 470 แบรนด์ที่ทำยอดขายจากทุกช่องทางได้เกิน 100 ล้านหยวน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเข้าร่วมในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของอาลีบาบา สามารถสร้างคุณค่าให้ธุรกิจได้จริง
ส่วนสถิติจำนวนคำสั่งซื้อสูงสุดต่อวินาที อยู่ที่ 583,000 คำสั่งซื้อต่อ 1 วินาที ที่โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลต้องดำเนินการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มด้านเทคโนโลยีของอาลีบาบามีความยืดหยุ่นและแข็งแกร่ง จนสามารถรองรับปริมาณคำสั่งซื้อมหาศาลได้อย่างไม่มีปัญหา
เครือข่ายขนส่งของไช่เหนียว ได้ขนส่งพัสดุมากกว่า 2,320 ล้านชิ้น ตามคำสั่งซื้อทั้งหมดในช่วง 11 วันของการจัดงาน
ไลฟ์สตรีมมิ่งกลายเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ขาดไม่ได้ของมหกรรมในปีนี้ โดยมีการถ่ายทอดสดเพื่อนำเสนอสินค้าบนเถาเป่า ไลฟ์ มากกว่า 30 ช่อง ซึ่งแต่ละช่องล้วนทำยอดขายรวมได้เกิน 100 ล้านหยวน
ไฮไลท์ของงานช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ปี 2563
• มีแบรนด์ที่เข้าร่วมงานในปีนี้ทั้งหมด 250,000 แบรนด์ ในจำนวนนี้เป็นแบรนด์จากต่างประเทศ 31,000 แบรนด์ และในจำนวนแบรนด์ต่างประเทศเหล่านี้มี 2,600 แบรนด์ที่เข้าร่วมงาน 11.11 เป็นครั้งแรก
• แบรนด์ใหม่ 357 แบรนด์ กลายเป็นแบรนด์ที่ทำยอดขายได้สูงสุดในหมวดหมู่ของตนเอง และมีแบรนด์ใหม่มากกว่า 1,800 แบรนด์ที่ทำยอดขายจากทุกช่องทางในงาน 11.11 ได้สูงกว่าในปีที่ผ่านมา และมีแบรนด์ใหม่ 94 แบรนด์ที่ทำยอดขายเติบโตมากกว่า 1,000%
• ภายใต้โครงการ Spring Thunder ของอาลีบาบา มีร้านค้าจำนวน 1.2 ล้านร้าน และโรงงาน 300,000 แห่งที่เน้นการผลิตสินค้าระหว่างประเทศ จากนิคมอุตสาหกรรม 2,000 แห่งทั่วประเทศจีน เข้าร่วมงาน 11.11 ในปีนี้
• หุ่นยนต์ AI ตอบคำถามลูกค้า ได้ให้บริการมากกว่า 2,100 ล้านครั้ง ตลอดการจัดงาน 11 วัน
• สินค้านำเข้าที่มียอดขายจากทุกช่องทางสูงสุดคือสินค้าจากสหรัฐ ส่วนสินค้าจากประเทศอื่นๆ ที่มียอดขายเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลี นิวซีแลนด์ และสหราชอาราจักร
หมายเหตุ ยอดขายรวมทุกหมวดหมู่ (GMV) ของมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 เป็นมูลค่ารวมทั้งหมดของคำสั่งซื้อที่ชำระเงินผ่านอาลีเพย์ ในการซื้อสินค้าจากมาร์เก็ตเพลสของอาลีบาบาในจีน, เคาล่า (Kaola), ลาซาด้า, อาลีเอ็กซ์เพรส, New Retail และแพลตฟอร์มบริการสำหรับผู้บริโภค โดยนับยอดขายตั้งแต่วันที่ 1-11 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งรายงานแบบเรียลไทม์และนับรวมค่าจัดส่ง (ถ้ามี) ตัวเลขของยอดขายที่อาลีบาบา กรุ๊ป เปิดเผยในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ใช้สกุลเงินหยวน ส่วนการเทียบยอดขายและการเติบโตกับปีก่อนหน้านั้นคำนวณตามค่าเงินหยวน โดยไม่ได้นำการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินมาใช้คำนวณด้วย โดยค่าเงินหยวนต่อเหรียญสหรัฐในข่าวประชาสัมพันธ์นี้อยู่ที่ 6.7232 หยวนต่อ 1 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นค่าเงินตามประกาศของธนาคารกลางจีนเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ยอดขายรวมทุกหมวดหมู่และตัวเลขอื่นๆ ในข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นตัวเลขก่อนตรวจสอบ (unaudited) และอาจเปลี่ยนแปลงได้