กรุงเทพฯ – 19 ธันวาคม 2568 – ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดงาน 2025 Thailand–China Industrial Park & Supply Chain Investment Seminar เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ณ โรงแรม Grande Centre Point Prestige ซึ่งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนมุมมองด้านนโยบายและทิศทางการลงทุนระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรที่เกี่ยวข้องจากทั้งสองประเทศ
งานสัมมนาครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้าน Industrial Park และ Supply Chain พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้นักลงทุนจีนได้เรียนรู้ศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทย ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและโครงสร้างห่วงโซ่อุปทาน
ภายในงานมีการนำเสนอภาพรวมการลงทุนของบริษัทจีนในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันให้ความสำคัญกับประเทศที่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ความชัดเจนด้านนโยบาย และระบบอุตสาหกรรมที่สามารถเติบโตได้ในระยะยาว โดยประเทศไทยถูกมองว่าเป็นหนึ่งในประเทศหลักของภูมิภาคอาเซียนที่ตอบโจทย์ดังกล่าว
Mr. Wei Yong (魏勇) ประธานสมาคมอสังหาริมทรัพย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ความร่วมมือไทย–จีนในปัจจุบันกำลังก้าวเข้าสู่รูปแบบใหม่ที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน“นักลงทุนจีนไม่ได้มองเพียงต้นทุนการผลิตอีกต่อไป แต่ให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศปลายทาง และความพร้อมของ Industrial Park และ Supply Chain ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพสูง และสามารถพัฒนาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในระยะยาวได้”
ด้าน Mr. Xu Genluo (徐根罗) รองประธานผู้บริหาร บริษัท อมตะ อินดัสเตรียล (China Amata) ระบุว่า ประเทศไทยมีความได้เปรียบในการรองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ ซึ่งกำลังเป็นทิศทางหลักของนักลงทุนจีนในปัจจุบัน
ขณะที่ ดร.ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย–จีน กล่าวว่า งานสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นในวาระสำคัญของความสัมพันธ์ไทย–จีน“เวทีนี้สะท้อนมิตรภาพและความไว้วางใจระหว่างกัน ตลอดจนความเข้าใจร่วมกันว่าทั้งสองประเทศสามารถเติบโตไปพร้อมกันได้ ผ่านความร่วมมือด้านการลงทุนและอุตสาหกรรม”
ในมิติด้านการศึกษาและการพัฒนาบุคลากร รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) กล่าวว่า ความร่วมมือไทย–จีน ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงภาคธุรกิจ แต่ยังรวมถึงการพัฒนาองค์ความรู้ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
การจัดงาน 2025 Thailand–China Industrial Park & Supply Chain Investment Seminar จึงนับเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่สะท้อนทั้งโอกาสทางเศรษฐกิจ ศักยภาพของประเทศไทย และความแข็งแกร่งของมิตรภาพไทย–จีนที่พร้อมก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างยั่งยืน
