วงเสวนา สะท้อนประสบการณ์วัยรุ่นก้าวพลาด ต้องช่วยประคับประคองและคนที่เข้าใจในการพาออกจากหลุมดำ ยกกรณีศึกษา “ตัน” สุรนาถ แป้นประเสริฐ เป็นตัวอย่างที่ดีจากเหยื่อสู่ผู้รอด เป็นผู้ปกป้องช่วยเหลือคนอื่น ด้านครอบครัวแป้นประเสริฐยอมรับเริ่มอ่อนแรง ภาระหนักอึ้ง ยังหวังจะได้รับความเมตตา ให้ตันได้สิทธิประกันตัว
เมื่อเร็วๆนี้ ที่หอศิลปวัฒธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เครือข่ายชุมชน องค์กรด้านเด็กและเยาวชน และกลุ่มเพื่อนตัน กว่า 20 องค์กรร่วมกันจัดกิจกรรม “ตลาดนัดตันไม่ตัน” บริเวณโถงชั้น 1 ซึ่งจัดเป็นตลาดนัดศิลปะชุมชน workshop และอาหารพื้นบ้าน โดยช่วงเย็น ที่ห้องอเนกประสงค์มีการแสดงของเด็กๆและเยาวชน การแสดงดนตรีจากวง โฮปแฟมิลี่ และเสวนาหัวข้อ “จากวันวัยที่ก้าวพลาด จนถึงวันที่ผ่านพ้น”
นายอำนาจ แป้นประเสริฐ แกนนำเครือข่ายชุมชนลดปัจจัยเสี่ยง กล่าวถึงนายสุรนาถ แป้นประเสริฐ หรือตัน ว่า นายสุรนาถ หรือตันคือน้องคนสุดท้องปัจจุบันต้องสูญสิ้นอิสระภาพมานานเกือบ 3 เดือนแล้ว ด้วยคดีความที่เราไม่เคยเชื่อเลยว่าจะเกิดขึ้นจริง เพราะพวกเราเติบโตมาด้วยกัน พ่อแม่ปลูกฝังให้ครอบครัวเคารพรักในสถาบัน ร่วมกันทำกิจกรรมจุดเทียนถวายพระพรในวันพ่อวันแม่แห่งชาติ มาตั้งแต่เราจำความได้ รวมถึงทำอาหารเลี้ยงคนในชุมชน ทำกิจกรรมอาสาสม่ำเสมอจึงไม่เคยเชื่อเลยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น มองเป็นเพียงการยืนอยู่ในจุดผิดที่ผิดเวลา ที่ต้องการแสดงออกต่อการบริหารงานของรัฐบาลในขณะนั้น
นายอำนาจ กล่าวอีกว่า ในช่วงวัยรุ่น เราพี่น้อง ซึ่งอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออาจมีการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติดบ้าง ซึ่งสร้างความยากลำบากให้ครอบครัว ต้องเผชิญเสียงติฉินนินทา ตีตรา แต่พ่อที่เป็นผู้นำและมีความอดทนมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาด้วยการค่อยๆ ชวนลูกๆ ออกไปเรียนรู้สังคม ชุมชน ไปทำกิจกรรมเพื่อสังคมเพื่อคนอื่นสม่ำเสมอเริ่มจากงานยกของ การอแกความเห็นเป็นผู้นำกิจกรรม จนสามารถออกจากหลุมดำยาเสพติดได้เด็ดขาด จากนั้นขยับมาเป็นวิทยากร ทำโครงการในชุมชน จัดกิจกรรมเยาวชน และค่อยๆ เปลี่ยนแปลงชุมชนให้น่าอยู่ ห่างไกลจากยาเสพติด ลดละเลิก เหล้า พนัน ลดความรุนแรงในครอบครัว ช่วยเหลือเด็กเยาวชนให้เดินในเส้นทางที่ถูกต้อง เห็นคุณค่าในตัวเอง ไม่ไปพึ่งพายาเสพติด ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ
“ตันเป็นเสาหลักในหลายเรื่องของครอบครัว ส่วนตัวผมเองตอนนี้ออกจากงาน เพราะป่วยต้องฟอกไต 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ทำให้ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ตันต้องช่วยดูแล รวมถึงเรื่องความเป็นอยู่ของครอบครัวด้วย ซึ่งมีภรรยาของตันที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวเป็นจำนวนมากในแต่ละเดือน แม่ซึ่งตอนนี้อายุมากแล้วก็มาเป็นประธานชุมชนแทนพ่อที่พึ่งเสียไปได้ไม่นาน พวกเราพยายามรวบรวมทรัพย์สินที่มีเพื่อที่จะนำไปขอประกันตัวน้องชายอีกครั้ง ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ และยังมีความหวังว่าจะได้รับความเมตตา ให้น้องได้ออกมาทำคุณประโยชน์ให้สังคม ให้เด็กและเยาวชน” นายอำนาจ กล่าว
ด้านแดเนียล นายวิวัฒน์วงศ์ ดูวา อดีตเยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย)บ้านกาญจนาภิเษก กล่าวว่าตอนอายุ 12 ปี ตาซึ่งดืมแอลกอฮอล์ทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว ตนและแม่ต้องป้องกันตัว แต่เกิดความผิดพลาดทำให้ตาเลี้ยงเสียชีวิต และตน แม่ และพ่อเลี้ยงถูกจับ โดยตนถูกนำตัวไปอยู่บ้านแรกรับ และมีโอกาสได้มาเปลี่ยนแปลงตัวเองที่บ้านกาญจนาภิเษก อยู่กับนางทิชา ณ นคร หรือป้ามล ผู้อำนวยการบ้านกาญฯและได้พบกับนายสุรนาถที่เข้ามาทำกิจกรรมบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นคนยิ้มแย้ม กล้าหาญ เข้มแข็ง ให้เกียรติทุกคน ทำให้ตนได้เปลี่ยนความคิดมากมาย และตั้งใจที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างจริงจัง นำประสบการณ์ก้าวพลาดไปบอกต่อเพื่อเป็นวัคซีนป้องกันการก้าวพลาดให้น้องๆ เยาวชน และถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้นายสุรนาถได้ออกมาทำงานเพื่อสังคม เพื่อผู้ก้าวพลาดต่อไป
นายสุขวิชัย อิทธิสุคนธ์ แกนนำกลุ่มบางกอกฮับ กล่าวว่าตนรู้จักกับนายตันตอนที่เรียนอยู่ ม.1 และย้ายมาอยู่ชุมชนวัดอัมพวาที่พ่อของตนเคยค้ายา ทำให้คนมองว่าโตไปตนจะเป็นเหมือนพ่อ แต่ด้วยความที่รู้จักกับนายตัน และมีโอกาสได้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ ทั้งสนุกและได้ความรู้ ตนจึงไม่ก้าวไปในเส้นทางที่พ่อเคยเดินหมือนที่คนมาตีตราด้อยค่าตน และหลายครั้งที่ตนนำประสบการณ์ชีวิตไปเล่าให้น้องได้รับฟัง ซึ่งตนไม่เคยอายแต่กลับมีความภูมิใจ เพราะสิ่งนี้ช่วยเยียวยาตนเองและเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้อื่นได้
ด้านนางสาวลำประภา สัชชานนท์ แกนนำบางกอกนี้ดีจังกล่าวว่า ตนโชคดีรู้จักกับนายตัน เพราะทำงานในกลุ่มของสภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร มีหน้าที่ผู้ประสานงานกับเครือข่ายของนายตันโดยตรง ทำให้เห็นว่ากลุ่มของนายตันไม่เคยหยุดทำงานกับชุมชน สร้างการขับเคลื่อนในพื้นที่ตลอดเวลา ให้ตนได้เรียนรู้แนวคิดการทำงานนายตันซึ่งจะพูดเสมอว่าเราทำมันได้ ไม่เคยพูดคำว่าทำไม่ได้นอกจากนี้ ตนยังได้รับโอกาสและการช่วยเหลือจากนายตันจนเพลงได้เข้าเรียนในสาขาที่ตั้งใจไว้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องของการลงพื้นที่ทำงานกับชุมชน อีกทั้งในตอนยังคอยช่วยเหลือ ในเรื่องต่างๆที่นอกเหนือจากการทำงานด้วย ทุกวันนี้ตนจึงนับถือนายตันเป็นแบบอย่างและขอบคุณเสมอมา และอยากวิงวอนผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง ได้ให้โอกาสนายตันได้รับสิทธิ์ในการประกันตัว ออกมาเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ซึ่งส่วนตัว ตนยังเชื่อในความบริสุทธิ์ของนายตัน

