สอบสวนกลาง (CIB) รวบอดีตโปรแกรมเมอร์ตกงาน อ้างถูกหลอกไปทำงานที่กัมพูชา เปิดบัญชีม้า 5 บัญชี หนีกลับไทยถูกจับตามหมาย

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก.,พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง.ผบก.ป ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.3 บก.ทล., พ.ต.ท.ตุลยวัต เมืองทอง รอง ผกก.3 บก.ทล., พ.ต.ท.สมบูรณ์ เอื้อสมานไมตรี รอง ผกก.3 บก.ทล.,

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ก่อเกียรติ เกียรติตั้ง สว.ส.ทล.3 กก.3 บก.ทล., ร.ต.อ.ประพันธ์ เอี่ยมประโคน รอง สว.ส.ทล.3 กก.3 บก.ทล, ร.ต.อ.จินดา โพธิ์ทอง รอง สว.(ป.) ส.ทล.3 กก.3 บก.ทล,ด.ต.ณัฐพงษ์ สิ่วสำแดง, ด.ต.รัชเดช แอมนนท์ ผบ.หมู่.ส.ทล.3 กก.3 บก.ทล.

ร่วมกันจับกุม นายรัชกฤตฯ อายุ 60 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาลแขวงระยอง ที่ 223/2568 ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2568 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”สถานที่จับกุม ในพื้นที่ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ตามนโยบายการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ของ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ Anti Cyber Scam Center โดยมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช เป็นหัวหน้าศูนย์ ได้มีนโยบายให้ตำรวจทางหลวงทำการป้องกันปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่อาจใช้เส้นทางบนถนนหลวง เป็นเส้นทางในการหลบหนี หรือเป็นทางผ่านในการเคลื่อนย้ายฐานที่ตั้ง หลังมีการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างจริงจัง

สืบเนื่องจากเมื่อต้นปี พ.ศ. 2568 ผู้ต้องหาในคดีนี้คือ นายรัชกฤตฯ มีอาชีพเป็นโปรแกรมเมอร์ในบริษัทเอกชนในประเทศไทย แต่ถูกเลิกจ้างช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ว่างงานและไม่มีรายได้พบประกาศรับสมัครงานผ่านบัญชีเฟซบุ๊ค ซึ่งระบุว่ามีตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ในประเทศกัมพูชา พร้อมผลตอบแทนเดือนละ 50,000 บาท จึงสนใจติดต่อสมัครงานตามประกาศดังกล่าวแต่เมื่อเดินทางไปถึงเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อเข้าทำงานตามที่สมัครไว้ กลุ่มบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้ว่าจ้าง ได้ยึดบัญชีธนาคารของนายรัชกฤตฯ จำนวน 2 บัญชีที่มีอยู่เดิม และให้เปิดบัญชีใหม่เพิ่มอีก 3 บัญชี รวมเป็น 5 บัญชี พร้อมทั้งนำบัญชีไปใช้และให้เจ้าตัวสแกนใบหน้า เพื่อใช้ในการเบิกถอนเงินจากบัญชีดังกล่าว ภายหลังจากอยู่ที่กัมพูชาได้ประมาณ 3 วัน ภายหลังทราบว่าบัญชีธนาคารทั้ง 5 บัญชีของตนถูกอายัด และเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับตนจากการที่บัญชีดังกล่าวถูกนำไปใช้ก่อให้เกิดความเสียหายประมาณ 200,000 บาท ประกอบกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวแจ้งว่าไม่มีงานให้ทำตามที่โฆษณาไว้ และมอบเงินจำนวน 4,000 บาทให้เป็นค่าเดินทางกลับประเทศไทย จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง

หลังจากกลับเข้ามาในประเทศไทยก็ได้มาทำงานรับจ้าง ในพื้นที่ จ.กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สืบทราบว่า นายรัชกฤตฯ บุคคลตามหมายจับ ทำงานรับจ้างอยู่ในพื้นที่ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าว เมื่อไปถึงพบชายไทยมีรูปพรรณตรงกับบุคคลตามหมายจับ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเพื่อขอตรวจสอบจากการตรวจสอบพบว่าบุคคลดังกล่าวคือ นายรัชกฤตฯ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ ของศาลแขวงระยอง ที่ 223/2568 ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2568 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับดังกล่าวมาก่อน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลแขวงระยอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นายรัชกฤตฯ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *