กรุงเทพฯ 3 มีนาคม 2568 – กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ผนึกกำลัง บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท มีเดียแท็งค์ จำกัด และสมาคมการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทย เดินหน้าสร้างโอกาสแก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้เติบโตผ่านโครงการ ดีพร้อม x เดลต้า เองเจิล ฟันด์ คอนเน็ค ปีที่ 10 ขยายผลต่อยอดกลยุทธ์การตลาดผ่านการสร้างเนื้อหา หรือ Content Marketing ปั้นเทรนด์การเสพคอนเทนต์ด้านนวัตกรรม เพิ่มโอกาสด้านการตลาด ขยายฐานลูกค้า และผลักดันผู้ประกอบการสตาร์ทอัพไปสู่ระยะเติบโต คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดได้กว่า 50 ล้านบาท พร้อมเชื่อมโยงสตาร์ทอัพไปยังแหล่งเงินทุนให้เปล่าของบริษัท เดลต้าฯ จำนวน 5 ล้านบาท ต่อไป
นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ เพื่อยกระดับผลิตภาพการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้ เป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญที่กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งดำเนินการ โดยการนำของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประกอบกับนโยบายของ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นการปรับอุตสาหกรรมเข้าสู่วิถีใหม่ โดยให้ความสำคัญในการยกระดับทุกองค์ประกอบของภาคอุตสาหกรรมควบคู่กับการสร้างความเข้มแข็งและกระจายรายได้สู่ชุมชน ด้วย ‘หัว’ และ ‘ใจ’ โดยเฉพาะเน้นการปรับเปลี่ยนธุรกิจและอุตสาหกรรมไปสู่อุตสาหกรรมศักยภาพ หรือ S-curve พร้อมปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ ที่เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจในอนาคต ทั้งยังสอดคล้องกับการสร้างกลไกสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถ ในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ตามนโยบายของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อขอรับการสนับสนุนเงินทุนไปต่อยอดแนวคิดให้เกิดขึ้นเป็น ธุรกิจใหม่ หรือขับเคลื่อนธุรกิจเชิงนวัตกรรมให้มีโอกาสเติบโตในเชิงพาณิชย์

นายดุสิต กล่าวต่อว่า ดีพร้อมเดินหน้าติดปีกสตาร์ทอัพไทย ผ่านโครงการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุนและตลาดสำหรับวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ DIPROM x DELTA Angel Fund Connect ปีที่ 10 พร้อมเปิดกิจกรรมบ่มเพาะทักษะทางธุรกิจ และการตลาดอย่างเข้มข้น (Marketing camp) จำนวน 5 วันเต็ม รวมทั้งเชื่อมโยงเครือข่ายกับผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ (Content creator) ปั้นเทรนด์การเสพคอนเทนต์ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยได้รับความร่วมมือจากสมาคมการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทย ร่วมค้นหาและคัดเลือกผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ เข้าร่วมโครงการ และมีบทบาทสำคัญในการสร้างกระแส สร้างการรับรู้ และกระจายข้อมูลให้กับผู้คนทั่วโลก ซึ่งเป็นการส่งเสริมสตาร์ทอัพให้สามารถเข้าถึงช่องทางการตลาดใหม่ ๆ ขยายฐานลูกค้า และผลักดันไปสู่ระยะเติบโตมากขึ้น นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรภาคอุตสาหกรรม เพื่อร่วมการทดลองใช้นวัตกรรม หรือ โซลูชั่นส์ในตลาดจริง (Proof of Concept: PoC) ถือเป็นมิติใหม่ของการพัฒนานวัตกรรม เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการและง่ายต่อการขยายผลในเชิงธุรกิจ และเป็นก้าวสำคัญที่ดีพร้อมมุ่งส่งเสริมในปีนี้ ก่อนเข้าสู่การนำเสนอโมเดลธุรกิจต่อแหล่งทุนในกิจกรรม Pitching Day ยิ่งไปกว่านั้น ได้มีความร่วมมือกับ บริษัท มีเดียแท็งค์ (Shark Tank Thailand) เพื่อส่งต่อสตาร์ทอัพเข้าร่วมรายการให้สามารถสร้างโอกาสในการเชื่อมโยงไปสู่นักลงทุนรายอื่น ๆ ได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
นายวิคเตอร์ เจิ้ง ประธานกรรมการบริหารบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเดลต้าฯ ร่วมกับดีพร้อมในการดำเนินธุรกิจเชิง CSR โดยการคืนกลับสู่สังคมในรูปแบบการสนับสนุนทุนเพื่อพัฒนาต่อยอดให้กับสตาร์ทอัพไทยผ่านโครงการ Angel Fund นับตั้งแต่เปิดตัวโครงการในปี 2559 ได้มีการเสริมศักยภาพให้กับสตาร์ทอัพกว่า 200 ราย เป็นเงินทุนมากกว่า 33.16 ล้านบาท และช่วยสร้างงาน 927 ตำแหน่ง ซึ่งโครงการดังกล่าวมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการนำนวัตกรรมต่าง ๆ เข้าสู่ตลาดเชิงพานิชย์ได้อย่างชัดเจน สำหรับปีนี้ ทางบริษัทฯ ทุ่มเงินจำนวน 5 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการสนับสนุนเงินให้เปล่าแก่สตาร์อัพที่มีธุรกิจและผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรม จำนวน 4 ล้านบาท และสนับสนุนผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ จำนวน 1 ล้านบาท ให้สามารถต่อยอดการเริ่มต้นธุรกิจได้ และในฐานะผู้ให้การสนับสนุนด้านเงินทุนกับสตาร์ทอัพ คิดว่าโจทย์ใหญ่ของสตาร์ทอัพไทยในปีนี้ คือ การเร่งคิดค้นนวัตกรรมหรือเทคโนโลยี เพื่อแก้ไขปัญหาของโลกในบริบทต่าง ๆ อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง หรือ Climate change ซึ่งมีผลกระทบต่อพวกเราทุกคนหรือจากสถานการณ์ปัจจุบันที่พวกเราต้องการสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ เพื่อให้คุณภาพชีวิตของพวกเราดีขึ้น

โครงการฯ กําลังเติบโตขึ้น โดยในปีนี้ได้มีพันธมิตรใหม่อย่างสมาคมการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทย และ Shark tank มาเสริมความแข็งแกร่ง จึงอยากจะกระตุ้นให้สตาร์ทอัพทุกคนใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ เพื่อเรียนรู้จากธุรกิจชั้นนำในประเทศไทยและสร้างความมั่นใจ โดยการเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ และตระหนักว่าชีวิต คือการเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้า ซึ่งหวังว่าทุกคนจะสนุกกับความท้าทายในเหล่านี้ พร้อมกับนำความคิดไปต่อยอดพัฒนาธุรกิจไปสู่อีกระดับต่อไป วิคเตอร์ เจิ้ง กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ประกอบที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งธุรกิจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2430 6873 ต่อ 1625 หรือติดตามความเคลื่อนไหวและข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่ www.diprom.go.th และ www.facebook.com/dipromindustry