ไรเดอร์ทุกแห่งหนรวมตัว ขับเคลื่อนเพื่อกลุ่มผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน ยื่นข้อเรียกร้องถึงกรมการขนส่งทางบก (DLT)เจาะปัญหาการจดทะเบียนรถรับจ้าง เน้นหาทางออกร่วมกันกับภาครัฐ

19 กุมภาพันธ์ วันดีเดย์ตัวแทนกลุ่มผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชันได้รวมตัวกันที่กรมการขนส่งทางบก (DLT) ยื่นข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย และเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งแก้ไขปัญหาด้านกฎหมายและระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการจดทะเบียนรถรับจ้างสาธารณะผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ขับขี่จำนวนมากที่ต้องการดำเนินอาชีพอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
การรวมตัวครั้งนี้มีผู้ขับขี่หรือไรเดอร์จากหลากหลายค่ายเข้าร่วมหลายร้อยคน เพื่อส่งเสียงสะท้อนถึงปัญหาหลักที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากภาครัฐ ซึ่งบางปัญหาต้องอาศัยเวลาและการพูดคุยกันจากหลากหลายฝ่าย และเสนอแนวทางปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในอุตสาหกรรมเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันในหลาย ๆ ด้าน

ปัญหาหลักที่ต้องการการแก้ไขเร่งด่วนและข้อเรียกร้อง
กลุ่มผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชันได้ยื่นข้อเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งแก้ไขปัญหาหลัก 4 ประการที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินอาชีพให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะในเรื่องของการจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะซึ่งมีข้อจำกัดที่ส่งผลกระทบต่อผู้ขับขี่จำนวนมาก
1. ข้อจำกัดด้านความจุเครื่องยนต์: ปัจจุบันกฎกระทรวงกำหนดให้รถจักรยานยนต์ที่สามารถจดทะเบียนได้ต้องมีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 125 ซีซี อย่างไรก็ตาม รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงมักมีความจุเกินกว่า 125 ซีซี ทำให้ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ไม่สามารถจดทะเบียนได้
2. ปัญหาหลักฐานถิ่นที่อยู่: กฎหมายปัจจุบันกำหนดให้ผู้ขับขี่ต้องมีหลักฐานรับรองถิ่นที่อยู่ในจังหวัดที่ต้องการจดทะเบียน แต่ผู้ขับขี่จำนวนมากอาศัยอยู่ในหอพักหรือห้องเช่า ทำให้ไม่สามารถขอเอกสารรับรองได้
3. อุปสรรคด้านการใช้คู่มือจดทะเบียนรถ: รถที่อยู่ระหว่างการเช่าซื้อต้องใช้เล่มทะเบียนตัวจริงจากสถาบันการเงินหรือบริษัทสินเชื่อซึ่งมักมีค่าใช้จ่ายสูง อาทิ ค่ามัดจำเล่มทะเบียน 5,000 – 10,000 บาท ค่าดำเนินการ รวมถึงดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนประเภทเป็นรถรับจ้างสาธารณะ ทำให้เป็นภาระหนักสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการดำเนินงานอย่างถูกกฎหมาย
4. ข้อกำหนดด้านประกันภัยที่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง: ประกันภัยสำหรับรถรับจ้างสาธารณะมีเงื่อนไขซับซ้อนและเบี้ยประกันสูงกว่ารถส่วนบุคคลหลายเท่า ทำให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถจดทะเบียนได้หรือได้รับภาระทางการเงินที่สูงขึ้น

ตัวแทนกลุ่มผู้ขับขี่ได้เสนอแนวทางการแก้ไข อาทิ การปรับเพดานความจุกระบอกสูบให้สูงขึ้น การผ่อนปรนข้อกำหนดด้านหลักฐานถิ่นที่อยู่ และการลดภาระค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนและประกันภัยเพื่อให้การดำเนินการจดทะเบียนเป็นไปได้อย่างราบรื่นและสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

“การรวมตัวในวันนี้เป็นการส่งสัญญาณไปยังภาครัฐว่า ผู้ขับขี่ต้องการทางออกที่เป็นธรรมและยั่งยืน มุ่งเน้นการหารือร่วมกัน เราไม่ได้เรียกร้องเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวแต่เพื่อให้เกิดระบบที่เอื้อต่อทุกฝ่ายในระยะยาว” ตัวแทนกลุ่มผู้ขับขี่กล่าว อีกทั้งยังเน้นย้ำว่าพวกเขาพร้อมที่จะทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันการแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่ล้าสมัยให้เกิดความเป็นธรรมและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันที่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจโดยรวมอย่างยิ่งในปัจจุบัน

ทางด้านภาครัฐเองได้ให้ความสำคัญกับปัญหาที่ผู้ขับขี่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน โดยรับรู้ถึงข้อเรียกร้องและเริ่มดำเนินการแก้ไขในบางเรื่อง การประชุมหารือเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์มีความคืบหน้าในหลายด้าน อาทิ โครงการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือคนขับที่ติดปัญหาเรื่องไม่มีภูมิลำเนาในจังหวัดที่ให้บริการ การอนุมัติป้ายเหลืองโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ภายใน 120 วัน การคงกฎหมายเรื่องเครื่องแบบตามประกาศกรมฯ ปี 2565 และการพิจารณาปรับเพดานความจุเครื่องยนต์ให้มากกว่า 125 ซีซี เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในปัจจุบัน นอกจากนี้ภาครัฐยังพร้อมให้ความสนับสนุนในการลดความขัดแย้งระหว่างผู้ขับขี่ทั้งวินมอเตอร์ไซค์และผู้ขับขี่ผ่านแอปพลิเคชัน อีกทั้งยังสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อให้สามารถติดตามข้อร้องเรียนและแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที