เปิดผลสำรวจ คู่รักวัยรุ่นเกือบครึ่งทะเลาะกันบ่อยถึงบ่อยมาก พบปัจจัยกระตุ้น หนีไม่พ้น ยาเสพติด-น้ำเมา ชวนคนรุ่นใหม่ลดปัจจัยเสี่ยง-ลดปัญหาความสัมพันธ์Toxic

เปิดผลสำรวจ คู่รักวัยรุ่นเกือบครึ่งทะเลาะกันบ่อยถึงบ่อยมาก พบปัจจัยกระตุ้นความสัมพันธ์แย่ที่สุด หนีไม่พ้น ยาเสพติด-น้ำเมา ชวนคนรุ่นใหม่ลดปัจจัยเสี่ยง-ลดปัญหาความสัมพันธ์Toxic หนุนภาครัฐเปิดพื้นที่ให้คำปรึกษาปัญหาวัยรุ่นในหอศิลป์ กทม.

เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2568 ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเพทมหานคร เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง มูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนทันสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในโอกาสวันวาเลนไทน์ปี 2568 “The Love เลือกได้ รักให้เป็น” พร้อมการเสวนาในหัวข้อ “เลือกที่จะรัก เรียนรู้ที่จะออกจากความสัมพันธ์อย่างเข้าใจ”

โดย นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า เนื่องในวันแห่งความรัก สสส. ขอเป็นส่วนหนึ่งสร้างกระแสให้สังคมรับรู้ว่าความสัมพันธ์ที่ดี เลือกได้ รักให้เป็น พร้อมสร้างความตระหนักให้เยาวชนใช้ชีวิตที่ห่างไกลปัจจัยเสี่ยงอาทิ เหล้า ยาเสพติด พนัน ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้ความรักเป็นพิษ จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 พบเยาวชนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 1.9 ล้านคน คิดเป็น 20.9% และยังเป็นกลุ่มอายุที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด ขณะที่ข้อมูลศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ปี 2566 พบกลุ่มอายุ 15-25 ปี เล่นพนันออนไลน์ 32.3% หรือ 2.9 ล้านคน โดย 1 ใน 4 หรือ 739,000 คน เสี่ยงเป็นนักพนันหน้าใหม่ ขณะที่มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เก็บข้อมูลปี 2566 พบรายงานข่าวความรุนแรงผ่านสื่อ 1,086 ข่าว มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยกระตุ้น 316 ข่าว คิดเป็น 29.1% และยาเสพติด 283 ข่าว คิดเป็น 26.1%

“เทศกาลแห่งความรักปีนี้ สสส. และภาคีเครือข่าย ขอสานพลังให้ทุกคนอยู่ร่วมในสังคมด้วยความเกื้อกูล ดูแล ส่งความรักที่ดีให้แก่กันในทุกความสัมพันธ์ ทั้งคู่รัก พ่อแม่ ลูกหลาน ญาติสนิท เพื่อนพ้องพี่น้อง เพื่อนบ้าน รวมถึงเพื่อนร่วมโลก เห็นถึงคุณค่าของตนเอง ให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีความเข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ และสัญญาณเตือนของความสัมพันธ์ที่อาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรง ขอให้ทุกคนช่วยกันส่งเสริมให้เดือนแห่งความรักนี้ใช้ชีวิตห่างไกลจากปัจจัยเสี่ยงทุกรูปแบบ” นายวิเชษฐ์ กล่าว

นางสาวปาลิณี ต่างสี ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง กล่าวว่า เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยงได้สำรวจเยาวชน อายุ 13-25 ปี จำนวน 2,200 คน ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดบางพื้นที่ เมื่อต้นเดือนก.พ. 2568 พบข้อมูลที่น่าสนใจคือ มีคู่รักที่ทะเลาะกันบ้างนานๆ ครั้ง 49.6% ทะเลาะบ่อย 25.3% ทะเลาะบ่อยมาก 16.1% โดยเรื่องที่ทำให้ทะเลาะกันมากที่สุดคือ สื่อสารไม่เข้าใจ พฤติกรรมส่วนตัว ไม่ใส่ใจกัน พฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม หึงหวง ติดเพื่อน และนอกใจ คบซ้อน ตามลำดับ ทั้งนี้ วิธีที่ใช้ในการแก้ปัญหาความรุนแรงของคู่รักวัยรุ่นคือ เลิกเลย 48% พูดคุยปรับความเข้าใจ 14.5% ให้โอกาสปรับตัว 13.5% แจ้งตำรวจ 8.7% โดยมีการปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพียง 0.6%

“วันรุ่นเมื่อมีปัญหาส่วนใหญ่เลือกที่จะปรึกษาเพื่อน รองลงมาคือ ขออยู่เงียบๆ คนเดียว ปรึกษาแชทGPT ไลฟ์โค้ช พ่อแม่ อินเทอร์เน็ต หมอ/นักจิตวิทยา ที่น่าสนใจคือ ปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาระหว่างคู่รักมากที่สุดคือ ยาเสพติด 46.1% เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24.5% การพนัน 22.1% บุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า 7.3% ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นที่เข้ามามีผลต่อปัญหาของคู่รักวัยรุ่นที่สำคัญเช่นกัน และ 85.7% เห็นด้วยกับการจัดให้มีพื้นที่รับฟัง ให้คำแนะนำ ปรึกษาปัญหาวัยรุ่นจากผู้เชี่ยวชาญหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่วัยรุ่นรวมตัวกันเป็นปกติ เช่น หอศิลปะแห่งกรุงเทพหมานคร” นางสาวปาลิณี กล่าว

นางสาวบี นามสมมติ กล่าวว่า ช่วงที่เพิ่งอายุ 21 ปี ตนได้มีการพูดคุยศึกษากับชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่ปีกว่าๆ ทำให้เห็นว่าเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง จึงได้ตกลงคบหาเป็นคนรัก แต่หลังจากคบกันเข้าประมาณเดือนที่ 4 ก็เริ่มท็อกซิก ชายหนุ่มมักจะห้ามไม่ให้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ห้ามเรื่องการแต่งกาย ห้ามแม้กระทั่งไปทำงานในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และชอบข่มขู่ว่าหากไม่เปลี่ยนหรือไม่ทำตามจะเลิก มีเหตุการณ์ที่ตนเคยไปสังสรรค์กับเพื่อน ทำให้ถูกด่ารุนแรง ใช้คำหยาบคาย สุดท้ายทนไม่ไหวจนต้องขอเลิก ทำให้ชายหนุ่มโมโหทำลายข้าวของ ใช้มีดปอดผลไม้กรีดคอตุ๊กตา รู้สึกกลัวมากได้โทรไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อน แต่ก็ถูกแย่งโทรศัพท์มือถือไปขว้างทิ้ง สุดท้ายก็เลิกกัน

“เราบล็อกเขาทุกช่องทาง ไม่กลับไปคืนดีด้วยแม้เขาจะพยายามตื้อขอคืนดีกว่า 2 เดือน เพราะเป็นปมในใจ ไม่สามารถลบได้ ตอนนี้เลยขอโฟกัสแค่เรื่องงาน อยากบอกกับคนที่กำลังมีความรัก เราต้องรักตัวเองให้มากๆ เพราะมีแค่เราเองที่จะสามารถช่วยตัวเองได้ ถ้ารักเขามากจนยอมเดินตามหลังเขาตลอด สุดท้ายตัวเราเองที่เป็นคนเจ็บ และอาจจะเกิดความรุนแรงมากขึ้นไปอีก การออกจากความรักที่ทำร้ายเราจึงเป็นทางเลือกที่ดีของชีวิต แม้มันจะไม่ง่ายก็ตาม” นางสาวบี กล่าว

นางสาวอนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ หรือ แนท Miss Universe Thailand 2015 นางแบบ นักแสดง กล่าวว่า ตนได้รับการสอนจากคุณตาคุณยายว่าอย่าเพิ่งรีบมีแฟน ให้ตั้งใจเรียนก่อน ทำให้ประสบการณ์วัยเด็กที่แอบรักรุ่นพี่ที่เป็นนักฟุตบอล จึงไม่ได้พูดคุยหรือสานต่อ แต่ชอบแบบที่อยากเห็นเขาเติบโตขึ้นไป ต่อมาพอเข้ามัธยมมีเพื่อนในกลุ่มเกิดท้องก่อนวัยเรียน ซึ่งเพื่อนอยากเก็บเด็กไว้ เราก็ซับพอร์ตจิตใจเพื่อน ทางบ้านของเพื่อนก็มีความพร้อมในการดูแล ในขณะที่ฝั่งผู้ชายไม่รับผิดชอบอะไรเลย ดังนั้นเราจึงพูดเสมอว่า ความรักมีได้แต่ต้องรักแบบรักตัวเองด้วย ทุกการตัดสินใจ ต้องนอมรับผลที่จะตามมาให้ได้ ทั้งนี้พอตนเข้ามาอยู่กรงเทพฯ ถึงได้คุยและมีแฟนแต่เนื่องจากตนเองเมื่อมีความรักก็จะอยู่บนพื้นฐานของการรักตัวเอง จึงค่อนข้างระมัดระวังตัว ทำให้ฝ่ายชายมองว่าเราไม่เต็มที่ ทั้งๆ ที่เราเต็มที่แล้ว สุดท้ายจึงเลิกรากันไป ทำให้ตนเสียใจกินไม่ได้ ร้องไห้ทักวัน เป็นอยู่ 2 เดือน จนไม่มีน้ำตาจะไหล จนคิดได้ว่าตาคุณยายเลี้ยงเรามาขนาดนี้ ทำไมถึงยอมให้คนที่เพิ่งรู้จักกันได้ 8 เดือน ย่ำยีชีวิตเราได้ถึง 2 เดือน หลังจากนั้นจึงพัฒนาตัวเอง และประกวดนางงามเพื่อทำให้ตัวเองมั่นคงสามารถดูแลคุณตา คุณยายได้เร็ว เพราะท่านแก่มากแล้ว และทำให้ทุกวันเป็นวันที่พิเศษเสมอ ไม่ใช่วาเลนไทน์เท่านั้น

“ทุกการตัดสินใจเราต้องยอมรับผลที่ตามมาด้วย เราไม่ได้ห้ามเด็กไม่ให้มีความรัก เพราะตัวเองก็มีเหมือนกัน ความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่สุดท้ายต้องยืนอยู่บนหลักการ ยืนอยู่บนฐานที่เราต้องรักตัวเอง อยู่บนพื้นฐานของการมีอนาคตที่ดี สุดท้ายถึงเราไม่มีเขาก็ยังมีตัวเราอยู่กับเรา เชื่อว่าอนาคตเราจะเจอใครสักคนที่เหมาะสมและดีกับเรา ถึงแม้ว่าจะไม่เจอใครคนนั้น แต่เราอยู่ได้ด้วยตัวเราเองนั่นคือสิ่งที่มหัศจรรย์และวิเศษที่สุดแล้ว และอย่าปล่อยให้เกิดความรุนแรงถ้ามีครั้งแรกครั้งที่ 2,3 ก็จะตามมา ดังนั้นถอยออกมา” นางสาวอนิพรณ์ กล่าว

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *