กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดึงหน่วยงานพันธมิตรลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) รวม 2 ฉบับ โดยฉบับแรกเป็นการพัฒนาแพลตฟอร์ม DBD SMEs 360 ที่รวบรวมซอฟต์แวร์และเครื่องมือในการทำธุรกิจไว้ในที่เดียวร่วมกับสมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย และ BOL ส่วนฉบับที่ 2 เป็นการเชื่อมโยงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศกับไปรษณีย์ไทย เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการ โดยเป้าหมายสำคัญของ MOU ทั้ง 2 ฉบับเพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มศักยภาพ และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ SMEs ไทย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธาน และร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากับหน่วยงานพันธมิตร รวม 2 ฉบับ ในวันนี้ (วันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2567) ว่า ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises) หรือ SMEs เป็นธุรกิจรากฐานที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้เติบโต เพราะเป็นธุรกิจของผู้ประกอบการ รายย่อยที่ทำให้เกิดการกระจายรายได้กระจายสู่ท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่ผ่านมา ธุรกิจ SMEs ต่างประสบปัญหา/อุปสรรค และความท้าทายในการประกอบธุรกิจหลากหลายประการ ตั้งแต่การเริ่มต้นธุรกิจ ไปจนถึงการขาดแคลนเงินทุน ทำเลการค้า ช่องทางในการทำการค้าและการตลาด รวมถึงเครื่องมือที่จะมาช่วยสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ หากได้รับการส่งเสริมสนับสนุนอย่างเหมาะสม SMEs ไทยจะเติบโตอย่างแข็งแรงสามารถแข่งขันกับองค์กรธุรกิจของประเทศอื่นๆ ได้
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีภารกิจและหน้าที่หลักในการส่งเสริมผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน จึงมีแนวคิดในการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ หรือ SMEs Business Ecosystem เพื่อพัฒนาศักยภาพ และยกระดับคุณภาพในการบริหารจัดการธุรกิจของ SMEs ด้วยเทคโนโลยี เป็นการส่งเสริมและพัฒนาการให้บริการและช่วยสร้างโอกาสทางการค้าและการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ไทย จึงเป็นที่มาให้เกิดการลงนามความร่วมมือจำนวน 2 ฉบับ คือ
1) การพัฒนาแพลตฟอร์ม DBD SMEs 360 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่รวบรวมซอฟต์แวร์และเครื่องมือในการดำเนินธุรกิจให้เลือกใช้งานเพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจ SMEs ไทย ให้เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล
2) การเชื่อมโยงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อประโยชน์ต่อการส่งเสริม และพัฒนาการให้บริการ และสร้างโอกาสทางการค้าและการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการไทย
MOU ฉบับแรกเป็นการพัฒนาแพลตฟอร์ม DBD SMEs 360 ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของ 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย (Thai Startup Association) และบริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) หรือ BOL โดยเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่รวบรวมเครื่องมือในการบริหารจัดการและการดำเนินธุรกิจไว้ในที่เดียว เพื่อให้ง่ายและสะดวกต่อการใช้งาน ช่วยลดต้นทุนการประกอบธุรกิจของ SMEs ไทยให้สามารถแข่งขันและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในยุคดิจิทัล และในระยะถัดไปจะพัฒนาแพลตฟอร์มดังกล่าวให้เป็น Portal กลางเพื่อเป็นศูนย์รวมบริการของผู้ประกอบธุรกิจ ให้สามารถเลือกใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น เช่น บริการด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) ช่องทางการตลาดออฟไลน์และออนไลน์ การบริหารบัญชีและการเงิน การบริหารความเสี่ยง และด้านสิ่งแวดล้อม
นอกจากนั้นยังมีแผนในการรวบรวมบริการจากหน่วยงานภาครัฐ Government Service ที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการมาเชื่อมโยงกับ DBD SMEs 360 ด้วย หรือแม้แต่การค้นหาผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และเครื่องมือใหม่ๆ มาร่วมบนแพลตฟอร์ม โดยมีการวางแผนไว้ว่าจะร่วมมือกับโครงการต่างๆ เช่น โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS (Business Development Service) ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (สสว.) หรือ โครงการของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) เพื่อช่วยเปิดตลาดในการจับคู่ผู้ใช้งานกับซอฟต์แวร์อื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้ผู้ประกอบการมีทางเลือกในการใช้บริการที่หลากหลาย
ในส่วนของ MOU ฉบับที่ 2 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จะร่วมมือกันพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยเชื่อมโยงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของทั้ง 2 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้บริการลูกค้าและแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ข้อมูลทางวิชาการ และเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานโดยจะร่วมกันสนับสนุนส่งเสริมการให้บริการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร (Prompt Post), บริการไปรษณีย์ตอบรับในประเทศทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Acknowledgement of Receipt : E-AR) และบริการปักหมุดตำแหน่งที่ตั้งสำนักงานของนิติบุคคลตามโครงการพัฒนาระบบจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิทัล (DBD Biz Regist) และโครงการ Digital Post ID (D/ID)
รวมไปถึงจะร่วมกันสร้างโอกาสทางการค้าและเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการชุมชน และ SMEs ให้นำสินค้าไปจำหน่ายบนเว็บไซต์ ThailandPostMart.com โดยจะพิจารณาสิทธิประโยชน์ในการจัดส่งสินค้าที่จำหน่ายผ่าน e-Commerce และให้ร้านค้าโชห่วยเป็นจุดรับส่งสินค้าให้แก่ไปรษณีย์ อธิบดีอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า วัตถุประสงค์หลักของ MOU ทั้ง 2 ฉบับ เพื่อสร้างความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและบูรณาการความร่วมมือ ในการส่งเสริมและพัฒนาการให้บริการให้มีมาตรฐาน ตอบสนองความต้องการของลูกค้าและประชาชน รวมไปถึงการร่วมกันสร้างโอกาสทางการค้าและการตลาดให้แก่ SMEs ไทย ซึ่งจากนี้ไปทุกหน่วยงานที่ได้ลงนามความร่วมมือในวันนี้จะเดินหน้าดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ภายใต้บันทึกข้อตกลง โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มศักยภาพ และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ SMEs ไทยมีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์