ตลาดน้ำมันพืชเดือด สวีท มีท (ประเทศไทย) ส่ง เพลิน แบรนด์น้ำมันพืชใหม่ ชิงแชร์ตลาดร่วม 30,000 ล้าน ชูจุดเด่นน้ำมันสดใหม่จากโรงกลั่นสู่ขวดไม่เกิน 12 ชั่วโมง ด้านยอดขายปี 65 กวาด1,200 ล้าน คาดปีหน้า โตก้าวกระโดด 3,000 ล้าน จากปัจจัยหนุนทั้งในและต่างประเทศ
ตลาดน้ำมันพืชเดือดอีกรอบ สวีท มีท (ประเทศไทย) ส่ง เพลิน แบรนด์น้ำมันพืชน้องใหม่ ชิงแชร์ตลาดน้ำมันบริโภค 30,000 ล้านบาท ชูจุดเด่นน้ำมันมีความสดใหม่จากโรงกลั่นถึงบรรจุขวดไม่เกิน 12 ชั่วโมง ใช้เทคโนโลยีการผลิตและนวัตกรรมการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันที่ได้มาใหม่จากยุโรป ทำให้ได้น้ำมันคุณภาพที่ดี เผยยอดขายปี 65 ทะลุเป้า 1,200 ล้านบาท คาดปีหน้าโตก้าวกระโดดถึง 3,000 ล้านบาท จากปัจจัยหนุนทั้งใน-ต่างประเทศ พร้อมกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว เพื่อเสิร์ฟให้ทันความต้องการของลูกค้า
นายเอกภัท เตมียเวส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจ เตมียเวส กรุ๊ป และประธานกรรมการ บริษัท สวีท มีท (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงการเติบโตของตลาดน้ำมันพืชเพื่อการบริโภคว่า ตลอดปีที่ผ่านมา ทั้งตลาดและราคาน้ำมันพืชเพื่อการบริโภคทั่วโลกมีการเติบโตและมีระดับราคาที่สูงขึ้นในทุกกลุ่ม โดยปัจจัยหลักในปีนี้เกิดจากสงครามระหว่างรัสเซีย – ยูเครน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญส่งผลกระทบต่อ Supply Chain ในภาพรวมไปทั่วโลกในหลายด้าน ทั้งภาคการผลิตของอุตสาหกรรมอาหารและการผลิตในอุตสาหกรรมน้ำมันเพื่อการบริโภค ทำให้นอกจากจะมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการแล้ว ยังส่งผลทำให้เกิดความผันผวนด้านราคาอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย ซึ่งอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้ผลกระทบโดยตรง ทั้งด้านปริมาณการผลิตน้ำมันปาล์มของประเทศผู้ผลิตหลักอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ที่มีไม่เพียงพอต่อความต้องการในการบริโภคในช่วงเวลาดังกล่าว การฟื้นตัวของธุรกิจและการเติบโตของธุรกิจอาหารหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย มีส่วนทำให้มีปริมาณการบริโภคสูงขึ้น และทำให้ราคาน้ำมันจากกลุ่มผู้ผลิตหลักของโลกสูงขึ้นด้วย ซึ่งก็เป็นผลดีต่อผลิตภัณฑ์น้ำมันเพื่อการบริโภคในกลุ่มต่างๆ รวมทั้ง สวีท มีทฯ ด้วยเช่นกัน ส่วนแนวโน้มของตลาดน้ำมันบริโภคในปี 66 คาดว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับปี 65 คือ ตลาดยังมีการเติบโตและขยายตัวได้อีกมาก
สำหรับในประเทศไทย ตลาดน้ำมันพืชเพื่อการบริโภคมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ประมาณ 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นน้ำมันปาล์ม 70% และน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ 30% ด้วยเหตุนี้ สวีท มีทฯ ซี่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันพืช เพื่อการบริโภคจึงได้เปิดตัวแบรนด์น้ำมันพืชน้องใหม่ “น้ำมันพืชเพลิน” อย่างเป็นทางการ พร้อมลงชิงแชร์ตลาดเต็มตัว ในทุกกลุ่มของน้ำมันเพื่อการบริโภค เช่น น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว น้ำมันปาล์ม และถั่วเหลือง โดยน้ำมันพืชเพลิน มีน้ำมันปาล์มเป็นผลิตภัณฑ์หลัก ในการจำหน่ายในตลาดประเทศไทย โดยจุดเด่นของน้ำมันพืชเพลินอยู่ที่ความสดใหม่ ระยะเวลาจากโรงกลั่นจนถึงกระบรรจุสู่ขวดใช้เวลาไม่เกิน 12 ชั่วโมง รวมถึงมีกระบวนการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม (Innovation) การปรับปรุงคุณภาพน้ำมันใหม่จากยุโรป โดยเป็นกระบวนการธรรมชาติ ทำให้ได้น้ำมันมีคุณภาพที่ดีขึ้น ปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ถือเป็นแต้มต่อและเป็นจุดแข็งของน้ำมันพืชเพลิน ในการรุกตลาดในครั้งนี้
ด้านแผนการรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นนั้น นายเอกภัท กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงงานผลิตน้ำมันพืชอยู่ที่จังหวัดชลบุรี มีการลงทุนปรับปรุง ขยายโรงงาน รวมทั้งลงทุนในเครื่องจักรใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพ และกำลังการผลิตของโรงงาน ทำให้มี Capacity ในการผลิตน้ำมันชนิดขวดได้สูงถึง 7,200,000 ขวดต่อเดือน (เฉพาะในขนาดไซน์ 1 ลิตรไซน์เดียว ไม่รวมขนาดบรรจุอื่น) เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้นอีกมากในปี 66 ที่ผ่านมา สวีท มีท (ประเทศไทย) เริ่มเดินเครื่องผลิตและจำหน่ายน้ำมันพืชเพลินครั้งแรกในปี 2561 มียอดจำหน่าย 44 ล้านบาท ปี 2562 ยอดจำหน่าย 46 ล้านบาท กระโดดขึ้นเป็น 200 ล้านบาทในปี 2563 และ 750 ล้านบาท ในปี 2564 โดยคาดว่าในปี 2565 นี้ จะมียอดจำหน่ายสูงถึง 1,200 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี ถือเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยได้รับปัจจัยหนุนการเติบโตทั้งจากความสัมพันธ์กับพันธมิตทางการค้าในทุกกลุ่มที่มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น มีคู่ค้าและมีตลาดกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา รวมถึงปัจจัยจากภายนอกประเทศที่สืบเนื่องมาจากภาวะตลาดโลกที่มีความต้องการน้ำมันเพื่อการบริโภคในปริมาณที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารที่มีน้ำมันพืช ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในกระบวนการผลิตสินค้า ด้านการจัดจำหน่ายนั้น บริษัทฯ มีการจัดจำหน่ายในประเทศ 80% ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักในประเทศจะเป็นกลุ่ม B2B และส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ 20% ของรายได้รวม โดยส่งออกไปในกลุ่มประเทศแถบเอเชียและกลุ่ม CLMV อาทิ เกาหลี ออสเตรเลีย พม่า ลาว และกัมพูชา รวมทั้งประเทศในกลุ่มทวีปยุโรป อาทิ เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมัน ฯลฯ
ส่วนแนวโน้มและทิศทางการเติบโตของ เพลิน ในปี 2566 นั้น วางเป้าหมายไว้ว่าจะยังคงรักษาระดับการเติบโตไว้ให้ได้อยู่ในระดับสูงเกินกว่า 30% หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยจะมีการเพิ่มสัดส่วนในการส่งออกไปยังต่างประเทศเป็น 40% และในประเทศ 60% ซึ่งได้ดำเนินการเปิดตลาดในประเทศใหม่ๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง (Diversify) จากการผันผวนของตลาดและต้นทุนของน้ำมันพืชแต่ละประเภท พร้อมทั้งมีแผนในการรุกตลาดภายในประเทศอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น ด้วยการเน้นการสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็งเป็นที่รู้จักมากขึ้น ส่งเสริมการใช้และการบริโภคน้ำมันพืช เพลิน ผ่านกิจกรรมทางการตลาดในด้านต่างๆ พร้อมผสานความสัมพันธ์กับคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ ในการร่วมมือพัฒนาธุรกิจร่วมกันให้ยั่งยืนอีกด้วย
สำหรับผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมของบริษัท สวีท มีท (ประเทศไทย) จำกัด และน้ำมันพืช เพลิน สามารถหาข้อมูลได้ที่ www.plearncookingoil.com Facebook : plearncatering Email : sweetmeet.hk@gmail.com หรือ
โทร 065-969-7482