WorkVenture ที่ปรึกษาและผู้นำด้านการสร้างแบรนด์นายจ้างให้แก่องค์กรชั้นนำในไทยและผู้ให้บริการแพลตฟอร์มค้นหางานที่หลายคนรู้จัก ได้ทำแบบสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับองค์ที่คนรุ่นใหม่ลงความเห็นว่า “เป็นองค์กรที่น่าร่วมงานด้วยมากที่สุดในปี 2022” ด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นถือเป็นความท้าทายของหลายองค์กรอย่างมากที่ต้องรับมือ จัดการ ปรับตัวให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การทำงานในปัจจุบัน แทบทุกองค์กรต้องปรับรูปแบบการทำงาน Work From Home สลับกับการเข้าออฟฟิศ ในขณะเดียวกันก็ยังคงต้องรักษามาตราฐานในการทำงานพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิขององค์กร รวมถึงการรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรให้ได้ เพราะโจทย์ใหญ่อีกโจทย์หนึ่งที่องค์กรได้รับนั่นก็คือปัญหาภาวะหมดไฟของคนทำงานจจากความกดดันต่าง ๆ ในช่วงนี้ ที่ทำให้เกิดการลาออกครั้งใหญ่ของพนักงานเพื่อแสวงหาองค์กรที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากขึ้น
ทางทีม WorkVenture ได้รวบรวมข้อมูลจากทั้งกลุ่มนักศึกษาและหนุ่มสาววัยทำงาน ช่วงอายุระหว่าง 21-35 ปี จำนวนกว่า 10,000 คน ผ่านการทำผลสำรวจแบบออนไลน์ พบว่าปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเลือกองค์กรยังคงมีอิทธิพลจากปัจจัยหลัก อย่างผลตอบแทน/เงินเดือน สวัสดิการ วัฒนธรรมองค์กรหรือไลฟ์สไตล์ในที่ทำงานตามลำดับ ส่วนปัจจัยที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจเป็นพิเศษคือเรื่อง “อิสระในการทำงาน” ทำให้บริษัทที่มีนโยบายการทำงานรูปแบบไฮบริดกลายเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ
หากมองในด้านกลุ่มธุรกิจพบว่ากลุ่มทางด้านเทคโนโลยีได้รับความสนใจมากที่สุดในปีนี้ รองลงมาจะเป็นกลุ่มเครื่องอุปโภคบริโภคที่ผู้คนต้องใช้ทุกวัน ด้วยเหตุผลเรื่องความเติบโตของบริษัทและโอกาสเติบโตในสายงาน และกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำในวงการเพราะมีความมั่นคงท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้สื่อโซเชียลมีเดียยังทำให้ผู้คนรู้จักกับบริษัทมากขึ้น ยิ่งเป็นบริษัทที่มีผู้ติดตามมากอย่างสายบันเทิงก็ยิ่งเป็นที่น่าสนใจในหมู่คนรุ่นใหม่ เพราะได้เห็นภาพว่าการทำงานที่นั่นเป็นเช่นไร และนี่คือ 50 องค์กรชั้นนำที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุดในปี 2022
อันดับ 1 | Google : กูเกิล ประเทศไทย
ครองแชมป์อันดับ 1 สองปีซ้อน สำหรับ “กูเกิล” ผู้ให้บริการข้อมูลในแทบจะทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลกในปัจจุบัน การทำงานที่กูเกิลขึ้นชื่อเรื่องสวัสดิการ บรรยากาศในการทำงาน ชื่อเสียงความเก่งกาจของทีม ทำให้คนอยากเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อพัฒนาและยกระดับการทำงานของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น จึงทำให้เหล่าคนทำงานร่วมใจกันโหวตให้เป็นองค์กรอันดับหนึ่งในฝันของคนรุ่นใหม่ไปอย่างไร้ข้อกังขา
อันดับ 2 | PTT : ปตท.
ธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติสัญชาติไทยที่มีชื่อเสียงด้านการทำงานที่สั่งสมประสบการณ์และความน่าเชื่อถือมาอย่างยาวนาน สอดคล้องกับความสนใจของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการทำงานในบริษัทที่มีความมั่นคงและมีโอกาสเติบโตในสายงานได้อีกมาก กลุ่ม ปตท. ยังเป็นศูนย์รวมผู้มีความสามารถสูงจากทั่วประเทศไทยมารวมกันที่นี่ ทำให้พนักงานสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้กลุ่ม ปตท. ยังมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องทุกปี และดูแลพนักงานเป็นเลิศผ่านสวัสดิการดี ๆ มากมายที่พร้อมมอบโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนไอเดียกันได้อย่างอิสระ สามารถนั่งในอันดับ2 ได้อย่างสมความเป็น ปตท.
อันดับ 3 | Shopee: ช้อปปี้
หนึ่งในแพลตฟอร์ม Online Shopping ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดและตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการทำงานที่ช้อปปี้จะเน้นเรื่องการทำงานเป็นทีม สนุกสนานและการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ที่มาพร้อมสวัสดิการ บรรยากาศ สิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้พนักงานรู้สึกสบายในการทำงานมากที่สุด แต่ถึงอย่างไรนั้นช่วงที่ผ่านมาช้อปปี้ก็เปิดโอกาสให้พนักงานได้ทำงานอยู่บ้านเพื่อลดความเสี่ยงจากการออกนอกบ้านอีกด้วย
อันดับ 4 | Apple : แอปเปิ้ล
หล่นลงมาจากปีที่แล้วเพียง 1 อันดับ แต่ยังคงความฮือฮาในความน่าร่วมงานอยู่ตลอดอย่าง “แอปเปิ้ล” ที่ไม่ว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์อะไรจะต้องมีเหล่าคนเลิฟเทคโนโลยีมากมายจากทั่วโลกต่อคิวยาวตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จก็คือเหล่าพนักงานของแอปเปิ้ลที่ได้คอยช่วยกันสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ และทำให้ไอเดียเหล่านั้นกลายเป็นจริง นอกจากนี้แอปเปิ้ลยังปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้พนักงานเข้ามาทำงานเพียง 3 วันต่อสัปดาห์เท่านั้น นั่นก็คือวันจันทร์ วันอังคารและวันพฤหัสบดี ส่วนในวันพุธและ วันศุกร์ นั้นก็ยังสามารถทำงานอยู่บ้านได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งงานด้วยนะ
อันดับ 5 | LINE: ไลน์
ถึงแม้ว่าจะถูกแซงทำให้หล่นลงจากอันดับ 2 จากปีที่แล้ว แต่ไลน์ แอปพลิเคชั่นที่เชื่อมผู้คนให้สนิทกันยิ่ง กว่าเดิมก็ยังเป็นบริษัทที่เป็น Top of Mind ของใครหลาย ๆ คน ด้วยชื่อเสียงเรื่องการดูแลพนักงานให้มีความสนิทกัน การออกแบบ ไลฟ์สไตล์การทำงานที่เปิดโอกาสให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และการสร้างกิจกรรมที่สนุกสนานเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน สำหรับจุดเด่นของไลน์ในปีนี้คือเรื่องของความสามารถในการปรับตัวทางด้านเทคโนโลยีเพราะไลน์มีเทคโนโลยีที่สามารถสนับสนุนให้การทำงานยืดหยุ่นได้อย่างไม่มีปัญหา ทำให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้และยังมอบสวัสดิการด้านสุขภาพสุดคูล อย่างแพทย์และจิตแพทย์ สำหรับปรึกษาส่วนตัวที่จะช่วยให้พนักงานลดความกังวลในช่วงที่ต้องห่างไกลเพื่อน ๆ ที่ทำงาน เรียกได้ว่าเอาใจใส่พนักงาน สุด ๆ ไปเลย
อันดับ 6 | SCG: ปูนซีเมนต์ไทย
อีกหนึ่งองค์กรขนาดใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในประเทศไทยอย่าง SCG ได้ก้าวขึ้นมาจากอันดับที่ 14 เนื่องด้วยธุรกิจของ SCG อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กระดาษ โลหะ เครื่องจักรกล อีกทั้งอุตสาหกรรมปิโตรเคมียังคงแข็งแกร่งและเติบโตอย่างมาก และยังได้ขยายธุรกิจออกไปครอบคลุมหลายอย่าง แต่ในส่วนของการดูแลพนักงานก็ยังคงดีเช่นเดิม โดยในช่วงนี้ SCG กระตุ้นเรื่ององค์กรนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การปรับตัวมาใช้เทคโนโลยีในการทำงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพราะการทำงานอยู่บ้านหรือเป็นเพราะใช้สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อประสิทธิภาพของบริษัท ด้วยศักยภาพต่าง ๆ ทำให้ภาพการทำงานของ SCG ยังคงติดอยู่ในใจของคนทำงาน แถมปีนี้ได้เพิ่ม Hybrid Workplace Work ที่ผสมผสานรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น โดยไม่ต้องเข้าสำนักงานตลอดอีกด้วย
อันดับ 7 | ThaiBev : ไทยเบฟ
ยังคงรักษาคุณภาพของการดูแลพนักงานได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเดิม ทำให้ปีนี้ “ไทยเบฟ” สามารถครองอันดับไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ก็เป็นเพราะการดูแลพนักงานเป็นอย่างดีจากนโยบายที่ใส่ใจความปลอดภัยของพนักงาน ทั้งการจัดตั้งศูนย์ตรวจ COVID-19 ภายในบริษัทและยังมีชุดตรวจ ATK ให้เมื่อพนักงานกลับมาทำงานที่บริษัท ในส่วนของเรื่องการทำงานไทยเบฟมุ่งมั่นให้พนักงานทำงานโดยเน้นใช้เทคโนโลยีมากขึ้นและทำงานแบบเป็น project-based เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานกับคนเก่ง ๆ มากขึ้น และได้โอกาสแสดงความสามารถภายใต้นโยบาย Limitless Opportunity โอกาสที่ไร้ขีดจำกัดในการเติบโตไปกับไทยเบฟ จนพนักงานเกิดความรักต่อบริษัท ทำให้บริษัทมีค่าเฉลี่ยอัตราการลาออกของพนักงานต่ำและยังติดอยู่ในใจคนทำงานรุ่นใหม่
อันดับ 8 | Agoda : อโกด้า
กลุ่มมิตรผลเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ของโลกที่ได้ใจคนรุ่นใหม่ไปครองเต็ม ๆ จนสามารถอยู่ใน 10 บริษัทแรกที่คนนึกถึงมากที่สุดจนได้ เพราะนอกจากความเป็นเลิศในเรื่องการดูแลพนักงาน บริษัทยังเน้นเรื่องของการสร้างความมั่นคงในอาชีพการงานและเน้นย้ำว่าไม่มีการเลิกจ้าง รวมถึงรับประกันการจ่ายเงินเดือนเต็มจำนวนเพื่อให้พนักงานมั่นใจว่าจะได้รับการดูแล นอกจากนี้ยังทำประกันโควิดและมีมาตรการป้องกันการระบาดในที่ทำงาน พร้อมทั้งมอบโอกาสให้พนักงานได้เรียนรู้ในช่วงที่ต้องทำงานอยู่บ้านผ่านหลักสูตรการเรียนออนไลน์ที่สามารถเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ สร้างโอกาสที่ดีที่พนักงานจะได้ใช้เวลาในการพัฒนาตัวเอง สร้างไอเดียและโอกาสใหม่ ๆ เพราะที่มิตรผลมีหลากหลายธุรกิจย่อยมากมายที่พร้อมจะสนับสนุนให้พนักงานเติบโต
อันดับ 9 | Bitkub : บิทคับ
นับได้ว่าเป็นปีที่ร้อนแรงของบิทคับเป็นอย่างมากทำให้หลายคนพูดถึงการทำงานที่บิทคับ จนสามารถก้าวขึ้นติดชาร์ต Top 10 บริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุดของปีนี้ โดยบิทคับเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขาย สินทรัพย์ดิจิทัลหรือ Cryptocurrency ที่มีผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จุดเด่นของการทำงานที่บิทคับคือ ออฟฟิศที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเอาใจคนรุ่นใหม่จริง ๆ ทั้งการเป็นออฟฟิศแบบเปิด มีโต๊ะทำงานร่วมกันโดยไม่มีอะไรมากั้น นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการเก๋ ๆ อีก เช่น ห้อง Nap Room สำหรับนอนพัก ห้องตัดผมให้พนักงาน จะได้ไม่ต้องไปรอคิวร้านข้างนอก อีกทั้งยังจัดเตรียมอาหารเช้าและอาหารกลางวัน รวมไปถึงของว่างให้พนักงาน และถ้าทำงานจนรู้สึกเมื่อยล้าก็สามารถไปใช้บริการที่ห้องนวดได้อีกด้วย ฟินสุดๆไปเลย
อันดับ 10 | Mitr Phol : กลุ่มมิตรผล
กลุ่มมิตรผลเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ของโลกที่ได้ใจคนรุ่นใหม่ไปครองเต็ม ๆ จนสามารถอยู่ใน 10 บริษัทแรกที่คนนึกถึงมากที่สุดจนได้ เพราะนอกจากความเป็นเลิศในเรื่องการดูแลพนักงาน บริษัทยังเน้นเรื่องของการสร้างความมั่นคงในอาชีพการงานและเน้นย้ำว่าไม่มีการเลิกจ้าง รวมถึงรับประกันการจ่ายเงินเดือนเต็มจำนวนเพื่อให้พนักงานมั่นใจว่าจะได้รับการดูแล นอกจากนี้ยังทำประกันโควิดและมีมาตรการป้องกันการระบาดในที่ทำงาน พร้อมทั้งมอบโอกาสให้พนักงานได้เรียนรู้ในช่วงที่ต้องทำงานอยู่บ้านผ่านหลักสูตรการเรียนออนไลน์ที่สามารถเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ สร้างโอกาสที่ดีที่พนักงานจะได้ใช้เวลาในการพัฒนาตัวเอง สร้างไอเดียและโอกาสใหม่ ๆ เพราะที่มิตรผลมีหลากหลายธุรกิจย่อยมากมายที่พร้อมจะสนับสนุนให้พนักงานเติบโต
อันดับ 11 | AIS : แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส
ทำผลงานได้ดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่องสำหรับ AIS หนึ่งในผู้นำด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม ที่มีความสามารถในการดูแลพนักงานเป็นอย่างดี เพราะให้ความสำคัญกับเรื่องของการทำงานอย่างมีความสุข การสร้าง Work Life Integration โดย ยึดแนวคิด FIT FUN FAIR ที่จะสร้างคุณภาพงานที่ดีไปพร้อมกับบรรยากาศงานที่สนุก นอกจากนี้ AIS ยังได้พัฒนาเครื่องมือต่าง ๆ ทางเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์และตอบสนองความต้องการของพนักงานทำให้พนักงานแฮปปี้สุด ๆ จนสามารถก้าวขึ้นมาได้กว่า 10 อันดับจากปีที่แล้วเลยทีเดียว
อันดับ 12 | Toyota : โตโยต้า
โตโยต้า ผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์จากประเทศญี่ปุ่นก็ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง สามารถขยับขึ้นจากอันดับ 34 ของปีที่แล้วสู่อันดับที่ 12 ได้อย่างสวยงาม เพราะที่นี่มีวัฒนธรรมการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ จนหลายองค์กรนำไปทำเป็นต้นแบบ ในส่วนของประเทศไทยเองก็มีเรื่องของโบนัสหลายเดือนและสวัสดิการที่จูงใจ รวมถึงการทำงานก็เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มีเวทีในการแสดงออก และมีการนำไอเดียไปต่อยอดสู่สิ่งใหม่ ๆ ได้ โตโยต้ายังได้ปรับการทำงานแบบยืดหยุ่นเพื่อสอดคล้องกับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ และยังให้ความสำคัญกับเรื่องของการศึกษาและการเรียนภาษาอีกด้วย
อันดับ 13 | Unilever: ยูนิลีเวอร์
ยูนิลีเวอร์ ก้าวกระโดดขึ้นมาจากอันดับที่ 38 ในปีก่อนสู่ลำดับที่ 13 ในปีนี้ ซึ่งไม่เกินความคาดหมายเลยกับยูนิลีเวอร์ ผู้ผลิตสินค้าระดับโลกที่ให้บริการมากกว่า 190 ประเทศภายใต้สินค้ากว่า 400 แบรนด์ ทำให้ยูนิลีเวอร์ขึ้นชื่อเรื่องของความหลากหลายและความท้าทายในการทำงานเป็นอย่างมาก พนักงานมีโอกาสในการเติบโตได้ไกล โดยที่นี่มุ่งเน้นให้พนักงานได้พัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในอนาคตผ่านการสร้างแพลตฟอร์มสำหรับเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ และยูนิลีเวอร์ยังตั้งเป้าที่จะสร้างชีวิตความเป็นอยู่ของคนทำงานให้ได้รับรายได้ที่เหมาะสมต่อค่าครองชีพภายในปี 2030 และปรับรูปแบบการทำงานมาเป็นแบบไฮบริดเพื่อลดความเสี่ยงจากการเดินทางมาทำงานด้วย
อันดับ 14 | Siam Commercial Bank: ธนาคารไทยพาณิชย์
วินาทีนี้ต้องขอยกธนาคาร ไทยพาณิชย์เป็นหนึ่งในธุรกิจทางการเงินที่ถูกใจคนรุ่นใหม่ที่สุด ทั้งการปรับเปลี่ยนระบบมาเป็นรูปแบบเทคโนโลยีมากอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย มีการปรับตัวต่อกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยธนาคารไทยพาณิชย์ได้มีนโยบายทำงานแบบ “Work from Anywhere” หรือทำงานที่ไหนก็ได้ และยังมีการปรับออฟฟิศเพื่อให้มีมุมทำงานมากขึ้น หลีกเลี่ยงการอยู่อย่างแออัด แม้แต่ห้องผู้บริหารก็กลายมาเป็นส่วนที่พนักงานใช้ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมายเข้ามาใช้เพื่อให้พนักงานเข้าถึงเอกสารต่าง ๆ ได้ และเพื่อให้สามารถทำงานที่บ้านได้จริง รวมไปถึงมอบสวัสดิการต่าง ๆ อย่างการดูแลเมื่อเจ็บป่วย และการหานักจิตวิทยามืออาชีพที่คอยให้คำปรึกษาแก่พนักงานเป็นการส่วนตัวเมื่อเกิดความไม่สบายใจ ทั้งหมดนี้ทำให้ธนาคารไทยพาณิชย์ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับที่ 14 จาก 29 ในปีที่แล้ว
อันดับ 15 | Honda: ฮอนด้า
ปีนี้ต้องยอมรับว่าบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังมาแรง ทำให้ฮอนด้าบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นครอง ใจคนรุ่นใหม่มากขึ้น จากเดิมครองเก้าอี้อยู่ในอันดับที่ 35 ฮอนด้าเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถเรียนรู้และสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปทำงานในตำแหน่งอื่น ทั้งงานในสายงานเดิมและการข้ามสายงานก็ทำได้ ทำให้การทำงานที่ฮอนด้ามีความยืดหยุ่นและมีโอกาสในการเติบโตไปได้อีกมาก ที่ฮอนด้ายังยึดถือความเป็นญี่ปุ่นในเรื่องความใส่ใจพนักงานเพื่อการทำงานอย่างมีความสุขที่นี่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลให้กับพนักงาน คู่สมรส บุตรและบิดามารดาของพนักงาน สวัสดิการอาหารกลางวัน แล้วยังมีสนามฟุตซอล แบดมินตัน บาสเก็ตบอล ห้องโยคะ ฟิตเนส ดนตรี เพื่อให้พนักงานได้มาผ่อนคลายทั้งกายและใจ มีพลังคิดไอเดียใหม่ ๆ แล้วลุยเลย
อันดับ 16 | Kasikornbank: ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารกสิกรไทยเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ก้าวขึ้นมาสู่อันดับต้น ๆ ขององค์กรที่คนอยากร่วมงานด้วย เนื่องจากได้ปรับการทำงานให้เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง โดยให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างสะดวกทุกที่ทุกเวลาผ่านเครื่องมือการทำงานที่ทันสมัยภายใต้ Digital Workplace Concept ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานระดับสากล ทำให้การทำงานและประชุมสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ช่วยให้พนักงานสามารถคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้อย่างราบรื่น พร้อมสร้างความฝันของพนักงานให้เป็นจริงผ่านสวัสดิการช่วยเหลือทางการเงินมากมายทั้ง การซื้อที่อยู่อาศัย ยานพาหนะและเพื่อการศึกษา แถมในปีนี้ยังมอบ “เงินช่วยเหลือ เพื่อเป็นกำลังใจสู้ภัยโควิด” จำนวนเงินคนละ 10,000 บาท ให้แก่พนักงานได้ใจฟูอีกด้วย
อันดับ 17 | Bangchak: บางจาก คอร์ปอเรชั่น
บางจากเป็นอีกหนึ่งแห่งที่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม บวกกับการทำงานที่ทันสมัยฉีกกฎนิยามความเป็นบริษัทใหญ่ เช่น การทำงานจากที่ไหนก็ได้ “Work from Anywhere” เพื่อลดความแออัดในการทำงานที่สำนักงานใหญ่และยังมีการผลักดันให้เกิดศูนย์กลาง (hub) ในพื้นที่สำคัญในกรุงเทพเพื่อประชุมงานกัน พร้อมทั้งยังมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อลดความยุ่งยากของงานเอกสาร แต่นอกจากนี้บางจากยังมีสวัสดิการดี ๆ ในการ ช่วยเหลือพนักงาน เช่น การช่วยเหลือค่าอาหารกลางวันซึ่งทำให้พนักงานประหยัดไปได้เยอะ ในวันที่ไม่ต้องประชุมกับแขกภายนอก พนักงานสามารถใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์มาทำงานได้ด้วย ชิว ๆ สบาย ๆ เข้าใจพนักงานที่สุด
อันดับ 18 | Central Group: กลุ่มเซ็นทรัล
กลุ่มเซ็นทรัลมีธุรกิจในเครือที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก โรงแรมและรีสอร์ท รวมไปถึงร้านอาหาร ทำให้ที่นี่ใส่ใจกับคนที่แตกต่างหลากหลายกลุ่มธุรกิจมาสรรค์สร้างไอเดียในการทำงานร่วมกัน ได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ซึ่งบางครั้งการเปลี่ยนพื้นที่นั่งทำงานหรือประชุม ก็สามารถช่วยเพิ่มความสุขให้กับพนักงานและส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ มากขึ้นอีกด้วย เพราะกลุ่มเซ็นทรัลเชื่อมั่นในคนว่าธุรกิจจะดีได้ต้องเริ่มต้นจากบุคลากรที่ดี เห็นไหมล่ะว่าเขาใส่ใจพนักงานดีจริง ๆ
อันดับ 19 | BJC BigC: กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี
อีกหนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่มาแรงในปีนี้อย่าง กลุ่มบี เจซี บิ๊กซีผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าและบริการครบวงจร รวมไปถึงห้างค้าปลีกชั้นนำที่มีการดูแลพนักงานดีจนต้องบอกต่อ ก้าวขึ้นมาติดอยู่ในใจของพนักงานรุ่นใหม่อันดับที่ 19 ได้ ที่นี่เน้น “การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ช่วยเหลือกันแบบครอบครัว” พร้อมรับฟังทุกปัญหาของพนักงาน ข้อดีที่เด่นชัดของที่นี่คือ กลุ่มบีเจซี บิ๊กซีมีการทำแผนเลื่อนหรือปรับเปลี่ยนตำแหน่งให้พนักงานทุกคนอย่างเหมาะสม โดยการทำงานที่นี่ให้พนักงานสามารถย้ายที่ทำงานไปต่างประเทศได้อีกด้วย โดยในช่วงที่ผ่านมากลุ่มบีเจซี บิ๊กซีให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้ผ่านการเช็กเวลาในแอปพลิเคชั่น และยังมีมาตรการดูแลพนักงานที่จำเป็นต้องเข้างานตามปกติ รวมถึงมีส่วนช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของพนักงานอย่างเช่นการซื้อ สินค้าในราคาพิเศษได้อีกด้วย
อันดับ 20 | Lazada: ลาซาด้า
ยังคงความฮ็อตขึ้นในทุก ๆ ปีสำหรับลาซาด้า ปีนี้ก็ได้ก้าวขึ้นจากปีที่แล้วถึง 3 อันดับ เพราะด้วยการทำงานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เน้นใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อตอบความสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว การทำงานเป็นโต๊ะแบบเปิดกว้างไม่มีอะไรมากั้นช่วยให้พนักงานสามารถพูดคุยกันได้อย่างอิสระและการที่ได้ทำงานกับชาวต่างชาติและชาวไทยเก่ง ๆ มากมาย เรียกว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศการทำงานแบบอินเตอร์ มีปาร์ตี้รวมถึงขนมอีกมากมายและที่นี่ยังไม่จำกัดชุดที่ใส่ไปทำงานด้วยนะ
อันดับ 21 | Meta: เมตา
หลังรีแบรนด์องค์กรชุดใหญ่จาก เฟสบุ๊ก มาสู่ เมตา รูปแบบการทำงานที่นี่ก็เปลี่ยนไปอย่างมากโดยเฉพาะเรื่องของการทำงานเกี่ยวกับ “เมตาเวิร์ส” ถึงปีนี้เมตาจะไม่ได้ครองอันดับต้น ๆ อย่างปีที่ผ่าน ๆ มา แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงเป็นบริษัทด้านไอทีที่ใครหลายคนให้ความสนใจอยากจะไปร่วมงานกันด้วยอยู่ดี นอกจากออฟฟิศที่ทุกคนเห็นต้องว้าวกับการตกแต่งและชื่อเรียกของแต่ละห้องให้มีความเก๋ไก๋สไตล์ไทย ๆ แล้ว การทำงานที่นี่ยังมีความท้าทายมากมาย เพราะจะได้ทำงานร่วมกับคนเก่ง ๆ อีกจากหลายประเทศทั่วโลก
อันดับ 22 | True Corporation: ทรู คอร์ปอเรชั่น
ทรู คอร์ปอเรชั่นตอบทุกความต้องการของคนรุ่นใหม่จนไต่ขึ้นถึงอันดับที่ 22 อย่างรวดเร็ว เพราะการส่งเสริมทักษะของพนักงานให้สามารถทำงานใหม่ ๆ ตอบสนองต่อโลกเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป มีศูนย์ฝึกอบรมพนักงานที่มีความรู้ต่าง ๆ มากมาย เช่น การขายและการตลาด การบริการลูกค้าไป จนถึงความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานมีศักยภาพเพียงพอที่จะเติบโตไปในองค์กรอีกด้วย นอกจากตัวพนักงานแล้วทรูยังมอบสวัสดิการทุนการศึกษาสำหรับบุตรพนักงานที่มีผลการเรียนดีเป็นประจำทุกปี รวมไปถึงส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการของบริษัท และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ส่วนบรรยากาศการทำงานที่นี่ไม่ให้พูดถึงคงไม่ได้เพราะออฟฟิศสวยมาก แบบก.ไก่ล้านตัวเลยทีเดียว
อันดับ 23 | Sansiri: แสนสิริ
หนึ่งในแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่มีภาพลักษณ์ดูเข้าถึงได้ง่าย ถูกใจคนรุ่นใหม่ โดยแสนสิริไม่ได้ออกแบบแค่ที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังออกแบบวัฒนธรรมการทำงานที่เข้าใจทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่จากสโลแกน “เพราะความสุขไม่ควรจำกัดอยู่แค่ที่บ้าน” ทำให้การทำงานที่นี่ไม่ต้องติดกรอบนั่งทำงานที่โต๊ะอีกต่อไป ซึ่งเป็นการสร้างอิสระในการทำงานและยังมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำงานทุกภาคส่วน ช่วยให้การทำงานคล่องแคล่วขึ้น เมื่อมาทำงานที่นี่พนักงานจะได้รับส่วนลดในการซื้ออสังหาของแสนสิริอีกด้วย
อันดับ 24 | Grab: แกร็บ
แกร็บยังคงเป็นแบรนด์นายจ้างที่แข็งแกร่งอีกบริษัทหนึ่งในไทย ที่ใคร ๆ ก็อยากร่วมงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทำงานออฟฟิศรุ่นใหม่ หรือเหล่าพี่ ๆ ไรเดอร์ ทำให้แกร็บก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทชั้นนำอย่างรวดเร็ว หัวใจหลักของแกร็บคือการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคผ่านการมุ่งเน้นการสร้างความปลอดภัยกับความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าเป็นหลัก และแกร็บได้ออกมาตรการช่วยเหลือประกันโควิดให้แก่ไรเดอร์ทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข จำนวน 4 เดือนซึ่งก็ถือว่าเป็นมาตรการที่แสดงให้เห็นความห่วงใยทั้งต่อพนักงานและพาร์ทเนอร์ของบริษัท
อันดับ 25 | Nestle: เนสท์เล่
เจ้าใหญ่อย่าง เนสท์เล่ องค์กรอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดในโลก ที่ให้บริการในหลายประเทศทั่วโลกจนถือเป็นบริษัทระดับโลกที่มีการบริหารงานและดูแลพนักงานตามมาตราฐานสากล การทำงานที่นี่พนักงานจะได้รับประสบการณ์แบบอินเตอร์ และมีโอกาสร่วมงานกับคนเก่ง ๆ จากทั่วโลกได้ โดยองค์กรได้ดูแลพนักงานในทุกระดับเป็นอย่างดี มีประกันสุขภาพและช่วยออกค่ารักษาเมื่อต้องเข้าโรงพยาบาล การทำงานที่เนสท์เล่มุ่งเน้นเรื่องความเท่าเทียมทั้งทางเพศและทางร่างกายเพื่อช่วยให้พนักงานได้รับโอกาสที่ดีอย่างเท่าเทียมกัน เยี่ยมแบบนี้ เอาไปเลยสองนิ้วโป้ง!
อันดับ 26 | P&G: พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล
พีแอนด์จี เป็นองค์กรชั้นนำระดับอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับการจัดอันดับด้านทรัพยากรบุคคลอยู่เสมอ และติดอยู่ใน Top50 ลิสต์ของเราทุกปี ในปีนี้ P&G ยังสร้างผลงานได้ดีขึ้นจนถูกเหล่าคนรุ่นใหม่โหวตให้อยู่ในอันดับที่ 26 โดยการทำงานที่นี่จึงเน้นไปที่เรื่องของการพัฒนาทักษะของพนักงานเป็นอย่างมาก และพีแอนด์จียังให้พนักงานทำงานที่บ้านได้ก่อนที่จะมีโรคระบาดเสียอีก นับได้ว่าเป็นองค์กรที่ก้าวล้ำนำสมัยอยู่เสมอ การทำงานที่นี่มีโปรแกรมให้พนักงานได้เข้าไปพัฒนาตัวเองและมีโอกาสได้ศึกษาดูงานรวมไปถึงการทำงานที่ต่างประเทศ และยังมีโอกาสได้ถือหุ้นบริษัทอีกด้วยล่ะ
อันดับ 27 | Krungsri: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ธนาคารกรุงศรีอยุธยามาพร้อมกับสโลแกน “เลือกงานที่ใช่เพื่อชีวิตที่ชอบ” เปลี่ยนรูปแบบการทำงานธนาคารให้มีความทันสมัยและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้บริษัทก็ยังเน้นการทำงานที่ใช้เทคโนโลยีสร้างสายงานที่หลากหลายให้รองรับกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของกรุงศรี โดยพนักงานของกรุงศรีจะได้รับการเรียนรู้ผ่านการอบรมหลากหลายช่องทาง ทั้งการอบรม การสัมมนาเชิงปฏิบัติการในห้องเรียน การเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์และการเรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริงแถมยังมีโปรแกรมเรียนรู้อีกมากมายที่จะทำให้พนักงานกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในอนาคตอีกด้วย
อันดับ 28 | Thaioil: ไทยออยล์
ถือว่าทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องจนสามารถขยับขึ้นถึง 4 อันดับจากปีที่แล้ว สำหรับไทยออยล์ ธุรกิจด้านพลังงาน โดยเฉพาะธุรกิจการกลั่นน้ำมันมาอย่างยาวนาน เป็นหนึ่งองค์กรขนาดใหญ่ของประเทศไทยที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ทำให้มีกลุ่มพนักงานที่มีความหลากหลายตามไปด้วย การทำงานที่ไทยออยล์จึงวางแผนจัดทำการพัฒนาสายอาชีพที่ชัดเจนเพื่อให้พนักงานได้ก้าวหน้าตามความเหมาะสม มีการหมุนเวียนงานเพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ ยิ่งในส่วนของค่าตอบแทนไทยออยล์จ่ายผลตอบแทนติด 5 อันดับแรกของกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันเลยด้วยนะ และยังให้ความสำคัญกับ Work Life Balance เพื่อความสุขกายสบายใจของพนักงานให้ทำงานแบบแฮปปี้กันถ้วนหน้า
อันดับ 29 | Microsoft: ไมโครซอฟท์
ต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของไมโครซอฟท์ บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่มีคนเก่ง ๆ มากมายอยากเข้าไปร่วมงานด้วยมากที่สุด หลังจากหายไปจากอันดับในปีที่ผ่านมา แต่เพราะที่นี่มีสวัสดิการดี ๆ อีกมากมายและ ให้เงินเดือนสูงจนหลายคนต้องอิจฉา จึงทำให้ปีนี้กลับมาครองอันดับใน Top50ได้อย่างไม่น่าแปลกใจ
อันดับ 30 | Samsung: ซัมซุง
มาถึงอันดับที่ 30 กับซัมซุง บริษัทที่ให้ความสำคัญกับพนักงานอย่างมาก ทำให้เข้ารอบสู่Top 30 อย่างผ่านฉลุยเพราะด้วยความคิดสร้างสรรค์และความหลากหลายของพนักงานทำให้ Samsung ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมสูงสุดในโลก ที่เน้นการทำงานที่เปิดกว้างและร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมการแบ่งปันความรู้ความเชี่ยวชาญของแต่ละคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เปิดโอกาสให้ได้ทำงานกับคนเก่งและได้นำความคิดใหม่ ๆ มาปฏิบัติจริงเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นใหม่ ๆ แถมบรรยากาศการทำงานที่ Samsung ก็มีความไฮเทคสุด ๆ ไปเลย
อันดับ 31 | Mitsubishi: มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
อีกหนึ่งบริษัทที่มาแรงทะยานเข้าสู่ลิสต์ได้เป็นปีแรกอย่างในมิตซูบิชิ มอเตอร์ส บริษัทรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของญี่ปุ่น ภายใต้เครือมิตซูบิชิ กรุ๊ป เป็นหนึ่งบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์การทำงานของตัวเองและนอกเหนือไปจากสวัสดิการที่ให้เป็นประจำทุกปีแล้ว มิตซูบิชิยังมีการปรับเพิ่มสวัสดิการให้กับพนักงาน ทั้งค่ารักษาพยาบาลเพิ่มอีก 1,000 บาทเป็น 50,000 บาทต่อปี และเพิ่มสิทธิ์การลาไปร่วมงานศพบุคคลในครอบครัวโดยไม่กระทบต่อเบี้ยประจำเดือน และยังมีการเพิ่มค่าจ้างให้พนักงานรวมไปถึงแจกโบนัส 4 เดือนบวกเพิ่มเงินพิเศษอีก “หมื่นบาท” ภายในช่วงที่มีการระบาดของโควิดอีกด้วย ก็แหม…สวัสดิการดีซะขนาดนี้
อันดับ 32 | CP Group: เครือเจริญโภคภัณฑ์
เครือเจริญโภคภัณฑ์ กลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยก็จัดหนักจัดเต็มไม่แพ้ใคร เลื่อนขึ้นจากเดิมเป็น 10 อันดับ ทั้งการให้สิทธิพิเศษให้พนักงาน ในการเป็นเจ้าของร้าน Store Business หรือในช่วงที่ผ่านมาซีพีได้มีการปรับตัวอย่างมากทั้งการเปลี่ยนองค์กรไปสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลที่รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีทักษะก้าวทันและพร้อมรับมือในการทำงานในโลกธุรกิจวิถีใหม่ (Future of Work) และยังได้ช่วยเหลือจัดการวัคซีนให้แก่พนักงานอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการประกาศไม่ปลดพนักงาน และส่งอาหารให้พนักงานที่ต้องกักตัว 14 วัน เรียกว่าดูแลแบบครอบครัวกันไปเลย
อันดับ 33 | Deloitte: ดีลอยต์ทูชโทมัตสุ
เจ้าประจำอย่างดีลอยต์ทูชโทมัตสุ บริษัทตรวจสอบบัญชี Big Four ขนาดใหญ่ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ที่ปีนี้เลื่อนขึ้นจากเดิมถึง 6 อันดับ มาจากชื่อเสียงในเรื่องการทำงานที่บรรยากาศการทำงานมีความเป็นกันเองและไม่กดดัน และยังเลื่องลือในเรื่องเงินเดือนสูง โบนัสและวันหยุดที่ได้มากกว่าที่อื่นมาก ๆ อีกทั้งเปิดโอกาสให้พนักงานทำงานทางไกลได้อีกด้วย
อันดับ 34 | The Standard: เดอะสแตนดาร์ด
สื่อคุณภาพดีที่มีการวิเคราะห์ข่าวสารให้ผู้อ่านได้มองเห็นประเด็นใหม่ ๆ อยู่เสมอ และผู้นำคอนเทนต์ที่มีคุณภาพมาก ๆ อย่าง เดอะสแตนดาร์ด ถือว่าเป็นตัวจริงในวงการสื่อที่ดึงดูดความสนใจของคนรุ่นใหม่ได้ไม่น้อยจนกระโดดจากอันดับที่ 41 สู่ 34 ในปีนี้ โดยการทำงานที่นี่จะเน้นเรื่องความคิดเชิงสร้างสรรค์และการเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ในออฟฟิศสุดชิวที่ใครใคร่นั่งตรงไหนก็นั่งได้ เพื่อให้ปิ๊งไอเดียมามอบให้ผู้อ่านได้รับความรู้และสนุกไปพร้อมกัน อีกทั้งในปีที่ผ่านมา เดอะสแตนดาร์ดก็ได้ช่วยเหลือค่าวัคซีนให้กับพนักงานในช่วงการระบาดของโควิด-19
อันดับ 35 | Boon Rawd Brewery: บุญรอดบริวเวอรี่
มาแรงแซงใครๆ ไต่ขึ้นมากกว่า 10 อันดับ อย่างบุญรอดบริวเวอรี่ ผู้ผลิตเครื่องดื่มตราสิงห์ที่ทุกคนรู้จักกันดีที่มีจุดแข็งในเรื่องของวัฒนธรรมองค์กร “ครอบครัวสิงห์” ที่แสนอบอุ่นทำให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างยาวนาน และยังมีผลิตภัณฑ์ภายในเครืออีกเป็นจำนวนมาก ทำให้การทำงานนี่มีเรื่องใหม่ ๆ อยู่เสมอ ที่นี่มีการช่วยเหลือพนักงานผ่านสวัสดิการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โบนัสประจำปี ตรวจสุขภาพประจำปีและถ้าอยู่เกิน 5 ปีขึ้นไปจะมีสวัสดิการมอบให้อีกมากมายเลยล่ะ
อันดับ 36 | ExxonMobil: เอ็กซอนโมบิล
เอ็กซอนโมบิล ประเทศไทยนั้นไม่ได้ให้บริการเพียงแค่สถานีบริการน้ำมันอย่างเดียว แต่ยังมีหน่วยงานไอทีซึ่งมีหน้าที่พัฒนาและดูแลไอทีโซลูชั่นให้แก่บริษัทในเครือเอ็กซอนโมบิลทั่วโลก ทำให้ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เอ็กซอนโมบิล มีนโยบาย Digital Transformation นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจ ทำให้ที่นี่เป็นที่ที่รวมพนักงานไอทีเก่ง ๆ มากมายไว้ด้วยกัน และยังได้ทำงานร่วมกับชาวต่างชาติเพื่อดึงศักยภาพของพนักงานออกมาอีกด้วย การทำงานที่นี่ยังมีความยืดหยุ่นสูงมาก สามารถทำงานข้ามสายงานได้ และยังได้ทำงานในออฟฟิศสวย ๆ ใจกลางเมืองอีกด้วย และถึงแม้ปีนี้จะไม่สามารถรักษาลำดับที่ 26 ไว้ได้แต่เอ็กซอนโมบิล ก็ยังเป็นหนึ่งบริษัทในใจใครอีกหลาย ๆคน
อันดับ 37 | BMW: บีเอ็มดับเบิลยู
ต้อนรับการกลับมาในลิสต์อีกครั้งกับ บีเอ็มดับเบิลยู แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก หลังจากที่หล่นจากโพลไปในปีที่ผ่านมา แต่ถึงอย่างไรความเป็นสุดยอดนวัตกรรมและความหรูหราเหนือระดับจนลูกค้าทั่วโลกให้การยอมรับก็ทำให้ใคร ๆ ยังคงนึกถึงที่นี่อยู่ โดยการทำงานจะเน้นเรื่องของการเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริง และพร้อมที่จะทำงานในระดับเวิลด์คลาสที่ได้ร่วมงานกับคนเก่งชั้นนำจากทั่วโลก และมี Flexible Benefit Program ที่จะช่วยให้พนักงานได้รับสวัสดิการที่แตกต่างกันออกไปตามไลฟ์สไตล์ และยังช่วยพนักงานวางแผนการซื้อรถรวมไปถึงการดูแลเรื่องสุขภาพและเรื่องโบนัสรายปี ไงหล่ะ…ที่นี่ก็จัดให้หนักอยู่น้า
อันดับ 38 | Workpoint: ช่องเวิร์คพอยท์
เอาอะไรมาต้านก็ไม่อยู่ เพราะเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ได้ใจคนรุ่นใหม่ไปครองทุก ๆ ปี โดยเฉพาะเด็กจบใหม่สายนิเทศ ที่นี่ให้บริการความบันเทิงในหลากหลายรูปแบบที่มีชื่อเสียงทั้งเกมโชว์ รายการเรียลลิตี้ วาไรตี้โชว์ ซิทคอม และละครที่ถูกใจกันทั้งบ้านทั้งเมืองและยังเป็นผู้บริการทีวีดิจิตอลอันดับหนึ่งของประเทศไทย เนื่องจากมีการปรับผังรายการอยู่เสมอ มีคอนเทนต์ใหม่ออกมาตลอด ๆ ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในที่ทำงานที่หลายคนใฝ่ฝันจะเข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสุขให้แก่สังคม การทำงานที่นี่จะได้พบเจอกับผู้ที่มีชื่อเสียงมากมาย บริษัทมีนโยบายในการฝึกอบรมและพัฒนาบุคคลากร เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้พนักงานสามารถคิดสิ่งที่สร้างสรรค์เพื่อสังคมได้ต่อไปด้วย
อันดับ 39 | King Power: คิง เพาเวอร์
ในช่วงโควิดที่ผ่านมามีบริษัทไม่น้อยที่ปลดพนักงาน แต่ คิง เพาเวอร์ไม่มีนโยบายปลดพนักงาน แต่เป็นการช่วยพนักงานให้มีรายได้จากการขายของออนไลน์และยังมีส่วนลดพิเศษซื้อสินค้าในบริษัทด้วย ทำให้พนักงานปัจจุบันและเหล่าคนภายนอกต่างชื่นชมและประทับใจในความรับผิดชอบและการรู้จักปรับตัว จนได้อันดับที่ 39 เป็นครอง ปรบมือรัว ๆ ให้กับ คิง เพาเวอร์ไปเลย
อันดับ 40 | Tiktok: ติ๊กต็อก
เรียกได้ว่าสมกับที่มงลงในปีนี้ เพราะวินาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ติ๊กต็อก บริษัทเทคโนโลยี และโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ ที่ถือได้ว่าเป็นโซเชียลแพลตฟอร์มที่เติบโตเร็วมาก ๆ ด้วยความแปลกใหม่จากการอัปโหลดคลิปวิดีโอสั้น ๆ เพียง 15 วินาทีที่ทำให้หลายคนกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงชั่วข้ามคืนด้วยความที่เน้นคอนเทนต์สายฮาก็ช่วยให้ใครหลายคนผ่อนคลายจากความเครียดในช่วงนี้ไปได้เยอะ ซึ่งติ๊กต็อกเคยทำแคมเปญ @LifeatTikTok เพื่อให้คนเห็นภาพชีวิตจริงของการทำงานที่ติ๊กต็อกทั่วโลก ว่าบรรยากาศการทำงานที่นี่นั้นเหมาะกับการทำอะไรที่สร้างสรรค์จริง ๆ ทั้งความเปิดกว้างและความเป็นกันเองของพนักงาน จนทำให้ก้าวขึ้นมาติดอยู่ในใจของคนทำงานอันดับที่ 40 ในปีนี้
อันดับ 41 | LINE MAN Wongnai: ไลน์แมน วงใน
กระโดดเข้ามาในลิสต์ได้เป็นปีแรกสำหรับการควบรวมระหว่าง ไลน์แมน ธุรกิจเดลิเวอร์รี่ และ วงใน ธุรกิจมีเดียและแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์ ทำให้แพลตฟอร์มกลายเป็น ธุรกิจอาหารแบบครบวงจร ที่หลายคนรู้จักกันดี การทำงานที่นี่เป็นสตาร์ทอัพที่ต้องปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ให้ความสำคัญกับทุกคนอย่างเท่าเทียม พนักงานสามารถใส่ชุดอะไร หรือทำงานที่ไหนก็ได้ในรูปแบบของไฮบริด เอาที่สบายใจกันไปเลย แต่ช่วงที่ต้องการทำงานอยู่บ้านก็ไม่ต้องกลัวเหงานะ เพราะเขามีกิจกรรมนู่นนั่นนี่มาให้พนักงานมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นจัดเวิร์คช็อป ปั้นหม้อดิน หรือการจัด Virtual Concert เรียกได้ว่ากิจกรรมแน่น อยู่ที่นี่ไม่มีเรื่องให้เบื่อเลย
อันดับ 42 | SC Asset: เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น
ยากมากนะที่จะให้ใครมาเปลี่ยนตัวเองเพราะเรา แต่ที่ เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ผู้นำแบรนด์บ้านเดี่ยวเขาเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้ดีกว่าเดิมเพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีความสุข สร้างการเรียนรู้ให้พนักงานไม่ว่าจะเป็นการปรับพื้นฐานทักษะและเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ การเปิดโอกาสให้ผู้บริหารและพนักงานสามารถรับฟังวิสัยทัศน์และพูดคุยกับ CEO ได้โดยตรง ซึ่งเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ และแน่นอนออฟฟิศที่นี่สวยงามเกินบรรยาย ทีนี้พนักงานก็ได้ผ่อนคลายและสร้างสรรค์ไอเดียได้ไม่รู้จบ
อันดับ 43 | Osotspa: โอสถสภา
ปรบมือให้รัวๆกับความสำเร็จของ โอสถสภา บริษัทที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 130 ปี ที่ในปีนี้ได้ใจเหล่าคนทำงานรุ่นใหม่ไปครองอย่างท่วมท้น จนสามารถคว้าอันดับที่ 43 ไปครอง เพราะนอกจากวัฒนธรรมองค์กรอันโดดเด่นที่ให้พนักงานกล้าคิด กล้าลงมือทำ แถมออฟฟิศก็สวยหรูเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ มีพื้นที่มากมาย เช่น พื้นที่สำหรับจุดประกายไอเดียสร้างสรรค์เพื่อให้พนักงานสามารถแวะเวียนไปทำงานตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อจุดประกายในการทำงานและมี Lab cafe พื้นที่สำหรับให้พนักงานได้ทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ สวัสดิการของที่นี่ก็ดีไม่แพ้ใคร เพราะสามารถทำงานแบบยืดหยุ่นได้ รวมไปถึงมีคอร์สฝึกอบรมเพิ่มทักษะมากมาย พนักงานสายสุขภาพก็มีฟิตเนสและสนามกีฬาไว้ให้ออกกำลังกายและผ่อนคลายหลังเลิกงาน
อันดับ 44 | Accenture: เอคเซนเชอร์
เป็นปีแรกที่เหล่าสายไอทีต่อแถวกันเข้ามาโกยคะแนนให้เอคเซนเชอร์ บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและธุรกิจระดับโลกอย่างท่วมท้น เพราะใคร ๆ ก็อยากทำงานที่นี่ นอกจากความยืดหยุ่นในเรื่องเวลางาน และการให้อิสระในการทำงาน ที่ไม่มีต้องมานั่งประจำที่ออฟฟิศแล้ว ยังได้ทำงานร่วมกับชาวต่างชาติ แถมพนักงานของเอคเซนเชอร์มีโอกาสแลกเปลี่ยนไปทำงานในต่างประเทศ และสามารถขอเรียนรู้สิ่งใหม่ เทคโนโลยีใหม่ได้ซึ่งบริษัทก็จะมอบโบนัสให้เพื่อให้พนักงานมีความรู้นำมาปรับกลยุทธ์ให้ตอบสนองต่อลูกค้าได้ดีที่สุด ที่นี่มี People Lead มีหน้าที่ในการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเติบโตในสายอาชีพ ทั้งในเรื่องการปรับตัว การเรียนรู้เพื่อให้ความมั่นใจในการเลื่อนตำแหน่งแก่พนักงาน และพนักงานก็สามารถซื้อหุ้นโดยลดราคาให้ 15% ของราคาหุ้น จัดสวัสดิการมาแน่นขนาดนี้ก็เอาอันดับที่ 44 ไปครองเลยสิจ๊ะ
อันดับ 45 | Khotkool: โคตรคูล
บอกได้เลยว่าเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับโคตรคูล ชาแนล ผู้ให้บริการคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ที่เติบโตและมาแรงที่สุด เลยทำให้ใครหลายคนจดจำได้อย่างรวดเร็วจากรายการบันเทิงชื่อดังบนช่องยูทูป เช่น “จีบหนูหน่อยหนูอ่อยไม่เป็น” จนมีคนอยากร่วมงานด้วยมาก แซงขึ้นมาติดอยู่ในอันดับ Top50 ด้วยภาพลักษณ์สนุกสนาน สบาย ๆ เป็นกันเอง พร้อมกับออฟฟิศที่มีความโคตรคูลสมชื่อ ตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์ ทำเป็นห้องนั่งเล่นและห้องครัวของพนักงาน ที่นี่เน้นบริหารงานโดยให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน เช่น ทานข้าวร่วมกับพนักงานเพื่อพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ให้ได้ไอเดียที่จะสร้างสรรค์ผลงาน ถึงแม้ว่าสวัสดิการอาจจะไม่เท่าบริษัทใหญ่ ๆ แต่การทำงานที่ได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ ในออฟฟิศสวย ๆ เพื่อนร่วมงานคูล ๆ ก็ดึงดูดให้คนอยากมาร่วมงานเป็นจำนวนไม่น้อยเลยเช่นกัน
อันดับ 46 | Dtac: ดีแทค
ถ้าขึ้นชื่อเรื่องออฟฟิศที่มีสไตล์เป็นของตัวเองและอยู่ใจกลางเมืองเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ต้องยกให้ที่นี่เลย ดีแทค หนึ่งในโทรคมนาคมที่สำคัญอีกค่ายหนึ่ง ที่ดีแทคมอบสวัสดิการซื้อเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่บริษัทจัดจำหน่ายให้พนักงาน ได้ในราคาพิเศษ รวมไปถึงแพ็กเก็จการใช้งานสำหรับพนักงาน และมีสิทธิ์ร่วมถือหุ้นของบริษัท เทเลนอร์ โดยได้รับสิทธิส่วนลด นั่นหมายความว่ายิ่งช่วยกันทำให้บริษัทเติบโตมากเท่าไหร่ พนักงานก็ยิ่งได้รับผลตอบแทนกลับคืนแบบทวีคูณ นอกจากนี้ยังส่งเสริมการเรียนอยู่โครงการเรียนออนไลน์แบบ 24/7 ผ่านโทรศัพท์มือถือ และอ่านหนังสือผ่าน PLearn ได้อีกด้วย และถึงแม้ว่าปีนี้ดีแทคจะไม่ได้ติด Top20 เหมือนปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงเป็นที่น่าสนใจของคนรุ่นใหม่อีกหลายคน
อันดับ 47 | GMM Grammy : จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
อีกหนึ่งบริษัทที่ต้องถูกพูดถึงในทุก ๆ ปีอย่าง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ผู้ให้บริการความบันเทิง ให้บริการเพลงแบบครบวงจรมาอย่างยาวนานและยังมีช่องโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นเป็นอย่างมาก โดยแกรมมี่มีเส้นทางอาชีพมากมายทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง วงการเพลง ละคร และภาพยนตร์ โดยแกรมมี่มองว่าการพัฒนาบุคลากรทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร อีกทั้งยังเลือกใช้ประโยชน์ของโซเชียลมีเดียทุกรูปแบบให้เกิดประโยชน์การทำงาน เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ ช่วงที่ผ่านมาแกรมมี่ก็ดูแลพนักงานเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องของการฉีดวัคซีนและการทำงาน
อันดับ 48 | Marriott: แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล
เมื่อสถานการณ์ทั่วโลกกำลังเริ่มดีขึ้น แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ให้บริการโรงแรมและรีสอร์ทชั้นนำของโลก ก็ปังไม่หยุด กลายเป็นบริษัทที่ใครหลายๆคนอยากร่วมงานด้วยในปีนี้ เพราะที่นี่ให้ความสำคัญกับพนักงานเป็นที่สุด เพราะพนักงานที่มีความสุขจะสามารถส่งมอบความสุขต่อให้ลูกค้าประทับใจได้ โดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลมีสายงานมากมายไม่ใช่แค่เพียงพนักงานในโรงแรมเท่านั้น แต่งานด้านออฟฟิศ ก็มีความท้าทายเช่นกัน เช่น เรื่องการสร้างทักษะใหม่ ๆ และเติบโตในอาชีพของพนักงาน ได้เรียนทักษะการบริหารงานโรงแรมระดับโลก การดูแลให้พนักงานมีความเป็นที่อยู่ที่ดีทั้งด้านอารมณ์และร่างกาย รวมไปถึงการใช้ชีวิตอย่างสมดุล
อันดับ 49 | Unicharm: ยูนิชาร์ม
น้องใหม่ในลิสต์ปีนี้ของเราอย่าง ยูนิชาร์ม บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่มีรูปแบบการทำงานอย่างอินเตอร์ โดยที่นี่เปิดโอกาสให้กับทุก ๆ ความแตกต่างเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมแห่งการดำรงอยู่ร่วมกัน และยังมีสวัสดิการดี ๆ เกี่ยวกับสุขภาพมากมาย เช่น สิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลให้ตัวเองสูงสุดถึง 30,000 บาทแถมยังเบิกไปถึงพ่อแม่ได้อีกด้วย สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่จะได้รับสิทธิ์ในการซื้อผ้าอ้อมมามี่โพโคราคาพิเศษเต็ม ๆ ไปเลย 6 ปี มีสิทธิ์ลาพักร้อนได้สูงสุดถึง 12 วันต่อปี นอกจากนี้ยังมีวันลาอื่น ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นลาเพื่อแต่งงานได้สูงสุดถึง 5 วัน ก็ไม่แปลกเลยที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจอยากร่วมงานกับยูนิชาร์มจนเข้ามาอยู่หนึ่งใน 50 อันดับในปีนี้
อันดับ 50 | Srichand: ศรีจันทร์สหโอสถ
ปิดท้ายด้วยอันดับที่ 50 กับ ศรีจันทร์แบรนด์เครื่องสำอางของคนรุ่นใหม่ ทั้งเรื่องของภาพลักษณ์และคุณภาพ และจุดเด่นของการทำงานที่นี่ยังคงเน้นเรื่องของการสร้างความรู้ให้กับพนักงาน โดยมีสวัสดิการที่โดดเด่นอย่างให้สิทธิ์ซื้อหนังสือได้เดือนละ 1 เล่ม ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มความรู้ให้กับพนักงานแล้ว ยังถูกใจชาวหนอนหนังสือเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นคุณค่าทางจิตใจอย่างสูงสุด ส่วนการทำงานที่ก็ยืดหยุ่นมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่ไหนก็ได้ ใส่ชุดอะไรมาทำงานก็ได้ รวมไปถึงการทำงานแบบ Flexible Working Hour นอกจากนี้ศรีจันทร์ยังห่วงสุขภาพของพนักงานโดยได้จัดหาวัคซีนทางเลือกเพื่อเป็นวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับพนักงานด้วยและสวัสดิการข้อนี้ที่สาว ๆ ต้องชอบแน่นอนคือ ทำงานที่นี่จะได้รับผลิตภัณฑ์ของบริษัทไปสวยฟรีทุกเดือนเลยนะ
WorkVenture ขอแสดงความยินดีกับบริษัทชั้นนำทั้ง 50 อันดับที่ติดอยู่ในชาร์ตของเราปีนี้ ซึ่งการที่บริษัทต่าง ๆ ได้ก้าวขึ้นมาอยู่ในใจของคนรุ่นใหม่นั้นก็เนื่องด้วยความใส่ใจจริงของผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ ฝ่าย HR ที่แข็งแกร่งและพนักงานทุกคนที่ให้ความร่วมมือในการฝ่าฟันอุปสรรค และนอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่ทุกองค์กรที่ติดอันดับมีร่วมกันนั่นคือการสร้าง “แบรนด์นายจ้าง” ที่แข็งแกร่ง มีความชัดเจนในทิศทางการทำงาน และการประชาสัมพันธ์ให้คนภายนอกได้เห็น ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวบริษัทว่าจะสามารถสร้างชีวิตที่ดีให้พนักงานได้ สำหรับปีหน้าก็ต้องมาดูกันว่าใครจะสามารถเป็นแบรนด์นายจ้างที่ได้ใจคนรุ่นใหม่ไปครองมากที่สุด ก็ต้องมาดูกัน