บริษัท เอ็นซี โคโคนัท จำกัด เป็นบริษัทผู้ส่งออกมะพร้าวน้ำหอมเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ได้ร่วมมือกับคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมทำโครงการ COCONUT Tissue Culture หรือการพัฒนาขยายพันธุ์มะพร้าวน้ำหอม “พันธุ์ก้นจีบ”ด้วยวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ สำเร็จเป็นที่แรกของโลก
นายณรงค์ศักดิ์ ชื่นสุชน กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็นซี โคโคนัท ได้กล่าวว่า ปัจจุบัน จ.ราชบุรี มีการส่งออกมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ มีหลายอำเภอที่ปลูกมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบ เช่น อ.ดำเนินสะดวก อ.บางแพ อ.วัดเพลง อ.โพธาราม อ.ปากท่อ และอ.บ้านโป่ง มีพื้นที่รวมในการเพาะปลูกกว่า 100,000 ไร่ มูลค่าการส่งออกนับเป็น 10,000 ล้านบาทต่อปี มะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบถือได้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีปริมาณความต้องการของตลาดโลกสูงมากอย่างเช่นประเทศจีน ประเทศแถบยุโรป อเมริกา และประเทศแถบเอเชีย เป็นต้น ต่างก็ชื่นชอบในรสชาติของมะพร้าวน้ำหอมของประเทศไทยที่มีรสชาติหวานแบบธรรมชาติ และมีกลิ่นหอมซึ่งเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบของประเทศไทยและในพื้นที่เพาะปลูกของจ.ราชบุรี
และในปัจจุบันความต้องการของเกษตรกรมีเพิ่มมากขึ้นที่หันมาปลูกมะพร้าวน้ำหอมทำให้สายพันธุ์แท้ของมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบมีการกลายพันธุ์ ถ้าเกษตรกรนำไปเพาะปลูกกว่าจะเห็นผลผลิตก็จะเสียเวลาในการรอคอยไป 2-3 ปี ซึ่งอาจสร้างความเสียหายกับเกษตรกรได้ บริษัท NC COCONUT ในฐานะผู้ที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านมะพร้าวน้ำหอมเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องของพันธุ์ของมะพร้าวจึงได้ร่วมมือกับ ผศ.ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท คณบดี คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ร่วมกันวิจัยพัฒนาในครั้งนี้ใช้ระยะเวลาถึง 2 ปี จนได้กล้าพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบที่ตรงตามแม่พันธุ์ที่ให้ผลผลิตลูกดก จำนวนทลายเยอะ และคงความอัตลักษณ์ในรสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบนี้
ผศ.ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวในงานว่าการวิจัยเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อครั้งนี้เป็นการขยายพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบในสภาพปลอดเชื้อด้วยเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขยายพันธุ์ในอนาคต เริ่มต้นจากการคัดเลือกต้นพันธุ์มะพร้าวน้หอมที่ดี ได้แก่ น้ำและเนื้อมีรสชาติหวาน หอม จำนวนทะลายสูง จำนวนผลต่อทะลายพอเหมาะ ให้ผลสม่ำเสมอ ฯ เมื่อได้ต้นพันธุ์แล้วนำตัวอย่างพืช (Explant) ของต้นดังกล่าวไปทำการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อให้ได้ต้นพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมในปริมาณมาก มีลักษณะตรงตามต้นพันธุ์ และปลอดโรค ให้ผลดก เป็นการส่งเสริมและสร้างรายได้ให้เกษตรกร
หลักการที่สำคัญของการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของมะพร้าวน้ำหอม
– ใช้เทคนิคปลอดเชื้อตัดเอาชิ้นส่วนของพืช(Explant) ที่ผ่านการฟอกฆ่าเชื้อแล้วมาเลี้ยงในขวดแก้วที่บรรจุ
อาหารวิทยาศาสตร์ซึ่งผ่านการนึ่งฆ่าเชื้อมาเรียบร้อยแล้ว
– เมื่อเซลล์จากชิ้นส่วนต่าง ๆ ของมะพร้าวที่นำมาเลี้ยงได้รับแร่ธาตุ วิตามินสารควบคุมการเจริญเติบโต
และน้ำตาล จากอาหารวิทยาศาสตร์ที่ใช้เลี้ยงในสภาพปลอดเชื้อ จะมีการเจริญเติบโตเป็นต้นโดยตรง หรือเกิดเป็นกลุ่มของเซลล์ที่เรียกว่าแคลลัส
– เลี้ยงแคลลัสในสภาพที่มีแสง แคลลัสเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นโซมาติกเอ็มบริโอและเกิดยอดใหม่ที่ มีสีเขียว ชักนำให้เกิดยอดและราก
– เมื่อต้นกล้ามียอดและรากที่สมบูรณ์จึงนำออกปลูก อนุบาลในโรงเรือน และนำออกปลูกในแปลงปลูก ต่อไป
ประโยชน์ในการขยายพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมด้วยเนื้อเยื่อ
1.ได้ต้นแม่พันธุ์ที่เป็นพันธุ์ก้นจีบแท้ 100% ที่ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพตามต้นแม่พันธุ์ เช่น มีผลดก รสชาติหอมหวาน คงอัตลักษณ์มะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบ
2.ลดอัตราความเสี่ยงของเกษตรกรในเรื่องพันธุ์ที่ไม่แท้ ไม่ต้องเสียเวลาในการรอคอยหลังจากปลูกเป็นเวลา 2-3 ปี
3.มะพร้าวที่เพาะพันธุ์ทางธรรมชาติมีอัตราการงอกของต้นพันธุ์ร้อยละ 50-55
4.ตอบสนองความต้องการของเกษตรกรที่มีความต้องการเพาะปลูกแม่พันธุ์มะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบที่มีปริมาณมากในท้องตลาด
5.ส่งเสริมภาคการส่งออกมะพร้าวน้ำหอมให้มีการเติบโตมากขึ้นกว่าเดิม
6.สร้างผลิตผลของมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบได้ตรงตามสายพันธุ์และได้คุณภาพด้านรสชาติที่ตรงตามความต้องการผู้บริโภคทั่วโลก
และนอกจากนี้ในงานวันแถลงข่าวบริษัท เอ็นซี โคโคนัท จำกัด ได้เปิดตัวสินค้าใหม่เป็นนวัตกรรมสำหรับการ
ดื่มน้ำมะพร้าวน้ำหอมจากลูกได้ง่ายขึ้น COCOBUCKET “ ไม่เฉาะ แค่เพียงเจาะ ก็ได้ความสด” ถือได้ว่าเป็นการเปิดหรือเฉาะลูกมะพร้าวที่ไม่ต้องพึ่งพามีดอีกต่อไป ทำให้ทุกๆคนดื่มน้ำมะพร้าวแบบลูกสดๆได้ง่ายสะดวกสบายรับฤดูร้อนที่จะมาถึงในเร็ววันนี้