ไม่สนอะไรเลย !!

นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร​ ผวจ.อุดรธานี​ สั่งให้ นายชัยวัฒน์​ ธรรมวัตร​ ปลัดอาวุโสรักษาราชการแทนนายอำเภอเมืองอุดรธานี​  นำกำลัง อส. และประส่นตำรวจ เข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ซ.สามัคคี 9 หมู่ 3 ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี พบ มีกลุ่มคน ที่คาดว่าเป็นแก๊งทวงหนี้  มั่วสุมดื่มสุรา ส่งเสียงดังภายในบริเวณ บ้านนาทราย​ จึงเข้าไปตรวจสอบบริเวณที่รับแจ้ง

      เมื่อไปถึง พบ มีรถยนต์และรถจักรยานยนต์​ กว่า 10 คัน จอดอยู่หน้าบ้านและภายในบริเวณบ้าน เมื่อเดินเข้าไปภายในบริเวณบ้านพบกลุ่มบุคคล จำนวน 12​ คน​ นั่งตั้งวงดื่มสุรา เบียร์ เหล้าขาว และเครื่องดื่มเปิดเพลงจากท้ายรถยนต์ ส่งเสียงดัง​ สนุกสนาน รบกวนชาวบ้านละแวกนั้น​ โดยไม่หวั่นเกรงผู้ใด 

       เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจและสั่งให้ปิดเพลง โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวอ้างว่า​ กำลังเลี้ยงสังสรรฉลองวันเกิดเพื่อน โดยพรุ่งนี้เช้าจะแยกย้ายเดินทางกลับบ้าน ซึ่งแต่ละคนมาจากหลายจังหวัด เมื่อสอบถามถึงการประกอบอาชีพ แจ้งว่า มีอาชีพรับจ้างทวงหนี้​ และถูกนายจ้างเลิกจ้าง​แล้ว จากสถานการณ์ไวรัสโควิด19​   ชุดปฏิบัติการจึงได้แจ้งกลุ่มบุคคลดังกล่าว ว่าได้กระทำผิด โดยมั่วสุมกัน ทำการอันก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา  2019 (COVID-19) ตามข้อกำหนดแห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548  จึงได้เข้าจับกุม แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ยินยอมให้จับกุม​ อ้างว่าไม่ได้มั่วสุม ไม่ได้ติดเชื้อโควิดและดื่มกินภายในบ้านของตนเองเท่านั้น​ไม่ได้ออกไปไหน​ พร้อมทั้งยอมรับว่าผิดที่มั่วสุมกัน​ ทั้งยังรู้ถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด​19 และขอเจรจาต่อรองขอให้ปล่อยไป​ เพราะจะแยกย้ายกันกลับบ้านแล้ว​ โดยยังไม่ยอมให้จับกุม​ 

       ชุดปฏิบัติการจึงได้ขอกำลังเสริม จาก สภ.เมืองอุดรธานี​ เพิ่มเติม​ จึงสามารถจับกุมควบคุมตัวมายังฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองอุดรธานี​ ได้ในประมาณเวลา 23.30 น.​ ซึ่งพฤติการณ์ของบุคคลทั้ง 12 คน ที่รวมตัวกันนั่งดื่มกิน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหาร​ ส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้าน ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโลนา​2019 (COVID-19) อันเป็นการฝ่าฝืนข้อ5แห่งข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 ​แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ซึ่งมีโทษตามข้อ 15 คือ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 หรือข้อ 6 แห่งข้อกำหนดนี้ต้องรับโทษตามมาตรา​ 18  แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ว่า ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามมาตรา 9 มาตรา 10 มาตรา 11 หรือมาตรา 13 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ​ จึงได้บันทึกจับกุมทั้ง 12 คนส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *