ศูนย์คุณธรรมเปิดเวที ‘The Next HumAnIty’ จุดประกายสังคมไทย ใช้คุณธรรมกำหนดอนาคตท่ามกลางยุค AI

กรุงเทพฯ – 10 กันยายน 2568 – ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) โดยการนำของคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการศูนย์คุณธรรม จัดงานเสวนาใหญ่แห่งปี “The Next HumAnIty: กำกับอนาคต AI กำหนดอนาคตสังคม” ระดมสมองผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา เพื่อค้นหาคำตอบว่า เราจะกำกับทิศทางเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ได้อย่างไร ท่ามกลางยุคที่ AI กำลังก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการเปลี่ยนแปลงของโลก พร้อมเผยผลสำรวจดัชนีชี้วัดคุณธรรมและทุนชีวิตปี 2568 ผ่านเครื่องมือสำคัญ ได้แก่ ดัชนีชี้วัดคุณธรรม 5 ด้าน และทุนชีวิต โดยอ้างอิงจากกลุ่มตัวอย่างกว่า 33,000 คนทั่วประเทศ

รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม เปิดเผยผลสำรวจว่า “ดัชนีชี้วัดคุณธรรมของคนไทยทั้ง 3 ช่วงวัย (13–24 ปี, 25–40 ปี และ 41 ปีขึ้นไป) อยู่ในระดับ “พอใช้” เฉลี่ย 4.3 คะแนน ขณะที่ดัชนีทุนชีวิตอยู่ในระดับ “ดี” โดยมีคะแนนเฉลี่ยเกือบ 79% โดยเฉพาะกลุ่มวัย 41 ปีขึ้นไปที่มี “พลังตัวตน” โดดเด่นที่สุด ส่วนในระดับภูมิภาค พบว่าภาคตะวันตกมีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับ “ดีมาก” ที่ร้อยละ 80.41 สะท้อนถึงศักยภาพทุนชีวิตที่แข็งแรงและเป็นรากฐานสำคัญในการกำหนดทิศทางสังคมไทยในอนาคต”

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล

การจัดงานครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยี AI ที่ส่งผลกระทบต่อทุกมิติของสังคม ตั้งแต่การทำงาน การใช้ชีวิต ไปจนถึงโครงสร้างเศรษฐกิจ แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความท้าทายใหม่ๆ ทั้งด้านจริยธรรม ภัยคุกคามทางไซเบอร์จาก Deepfake และ AI Phishing รวมถึงคำถามสำคัญถึงอนาคตของแรงงาน ศูนย์คุณธรรมจึงเห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการสร้างพื้นที่เพื่อพูดคุยและหาแนวทางร่วมกัน เพื่อให้แน่ใจว่าการพัฒนา AI จะเดินหน้าไปบนรากฐานของคุณธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคมและเพื่อสะท้อนหัวใจของการเสวนา รศ.นพ.สุริยเดว ได้ทิ้งท้ายด้วยคำถามสำคัญว่า “เรากำลังสร้างคนให้กลายเป็นหุ่นยนต์ หรือสร้างให้เป็นมนุษย์ที่เดินได้กันแน่?” พร้อมชี้ให้เห็น 5 คุณสมบัติของมนุษย์ที่ AI ไม่สามารถเอาชนะได้ คือ ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity), แรงบันดาลใจ (Inspiration), ความใฝ่รู้ (Curiosity), คุณธรรม (Morality) และ สายใยรักและความเอื้ออาทร (Loving Care)

ในส่วนของกิจกรรมเสวนา Trends to Watch: Mega Trends Shaping The Next Humanity Mega Trends 2025: 4 เทรนด์กำหนดอนาคตมนุษยชาติ ณัฐกร เวียงอินทร์ Head of Content & Branding, Future Trends สรุป 4 เมกะเทรนด์สำคัญที่ต้องจับตา ได้แก่ AI ที่มีความรับผิดชอบ (Responsible AI) ซึ่งมาพร้อมความท้าทายด้านจริยธรรมและภัยจาก Deepfake, และ ความยั่งยืนที่พร้อมรับมือ (Sustainable Resilience) กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ยังมีเทรนด์ สังคมอายุยืนอย่างมีคุณภาพ (Longevity) ที่เน้นการมีสุขภาพกายและใจที่ดี และ ผลกระทบจากภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ที่บีบให้ภาคเกษตรไทยต้องเร่งนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อความอยู่รอด

เวทีเสวนา “Deep Dive Panel: AI at Work” โดยมี แทนพงศ์ CPO จาก FutureSkill และ ปฤณ จำเริญพานิช Co-Founder & CEO of AEIOU ได้ให้ข้อสรุปสำคัญสำหรับคนทำงานยุคใหม่ โดยชี้ว่ามนุษย์ต้องปล่อยให้ AI จัดการงานที่เน้นปริมาณ และความรวดเร็ว (Scale & Speed) แล้วหันมาสร้างคุณค่าในงานที่ต้องใช้ความรู้สึก และจิตวิญญาณ (Sense & Soul) และความเป็นมนุษย์ และต้องหันกลับมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวเองในเรื่องต่างๆ โดยคุณปฤณย้ำว่าทางรอดคือการพัฒนาตนเองให้ ‘สูงกว่าค่าเฉลี่ย’ ที่ AI ทำได้ ขณะที่คุณแทนพงศ์แนะให้ทุกคนเป็น ‘คนขับ AI’ (AI Driver) ที่รู้เท่าทันข้อจำกัดและใช้งานอย่างมีวิจารณญาณ ไม่ใช่แค่ ‘ผู้โดยสาร’ (AI Passenger) ที่คัดลอกไปใช้ โดยสรุป AI คือเครื่องมือที่เร่งให้มนุษย์ต้องพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้นเพื่อสร้างคุณค่าที่เทคโนโลยีไม่อาจทดแทนได้

ต่อเนื่องด้วยเวที Digital Wisdom: Digital Shield Building AI Literacy for All Generations โดย ทิพย์พิมล เกียรติวาทีรัตนะ Founder and Editor-in-Chief of Mutual และ รศ. ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้มอบแนวคิดสำคัญในการสร้างเกราะป้องกันดิจิทัล โดยย้ำว่าทุกคนต้องเริ่มจากการมี วิจารณญาณ และ หลักศีลธรรมในใจ เพื่อรู้เท่าทันข้อมูล พร้อมค้นหา ‘เสียงของตัวเอง’ ให้เจอเพื่อสร้างอัตลักษณ์ที่ชัดเจน การเข้าใจจุดแข็ง-จุดอ่อนของ AI จะทำให้เราสามารถ ‘นำ’ เทคโนโลยีมาใช้ได้ แทนที่จะถูกชักจูง ท้ายที่สุด เกราะป้องกันที่ดีที่สุดคือการกลับมาให้คุณค่ากับ ความไม่สมบูรณ์แบบ และ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ AI ไม่มีวันทดแทนได้

ตบท้ายด้วย ผศ. นพ. จิรยศ จินตนาดิลก จาก MedPark Hospital และ อิ๊ก-กัญจน์ภัสสร สุริยาแสงเพ็ชร์ CEO & Founder of ooca ที่ร่วมเสวนาในเรื่อง AI มีบทบาทในการช่วยพลิกโฉมคนสูงวัยของคนไทย ในการดูแลตัวเองให้อายุยืนอย่างมีคุณภาพ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ในทิศทาง “Longevity Tech: AI for Healthy Aging Society เจาะลึกบทบาทของ AI กับการสร้างสังคมอายุยืนอย่างมีคุณภาพ” อนาคตสุขภาพที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยปัจจุบัน AI ได้เป็นผู้ช่วยแก้ปัญหาที่จับต้องได้ เช่น การนอนไม่หลับ (Insomnia) และความเหงา แต่ยังต้องมีมนุษย์กำกับดูแล หัวใจสำคัญของเทคโนโลยีไม่ใช่แค่การยืดอายุขัย (Life Span) แต่คือการเพิ่มช่วงเวลาของการมีสุขภาพที่ดี (Health Span) ขณะที่อนาคตอาจได้เห็น AI เป็นเพื่อนคู่คิดหรือคู่ชีวิต อย่างไรก็ตาม ทั้งสองท่านทิ้งท้ายตรงกันว่า การลงทุนที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขภาพและพัฒนาความรู้ของตนเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต

การจัดงาน “The Next HumAnIty” ครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเวทีแลกเปลี่ยนมุมมองด้านเทคโนโลยีและคุณธรรม แต่ยังเป็นสัญญาณสำคัญว่าการพัฒนา AI จะเดินไปในทิศทางใด ขึ้นอยู่กับการเลือกของมนุษย์ทุกคน หากสังคมร่วมกันนำคุณธรรมมาเป็นเข็มทิศ เทคโนโลยีที่ทรงพลังเช่น AI ก็จะกลายเป็นพลังสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและมีความหมายร่วมกัน

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *