“รับเหมาก่อสร้าง” นับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีความผันผวน ขึ้นลงตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และฝากความคาดหวังไว้กับโปรเจกต์ต่างๆ ของภาครัฐและเอกชน แต่ถึงอย่างนั้น ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างก็ถือได้ว่ามีมูลค่าสูงมาก
จากข้อมูลของ SCB EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ เผยว่า ในแต่ละปี ภาคก่อสร้างไทยมีมูลค่าสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท และมีผู้เล่นที่หลากหลาย ทั้งผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ที่ทำตั้งแต่รับเหมาก่อสร้างที่มีความซับซ้อน ไปจนถึงผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดกลางและย่อยที่รับบทบาทเป็นผู้รับเหมาช่วงต่อจากผู้รับเหมาขนาดใหญ่อีกที
และหนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตามองไม่น้อย นั่นคือ บริษัท วี 45 กรุ๊ป จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจรับก่อสร้างและตกแต่งภายใน ผู้สร้างธุรกิจให้เติบโตมีมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาทในเวลา 3 ปี อย่างก้าวกระโดด

คุณชัยดิษฐ์ พิริยะถาวรไชย หัวเรือใหญ่แห่ง V45 ได้บอกเล่าถึงแนวคิดในการจับเทรนด์ธุรกิจ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าไว้อย่างน่าสนใจ “จุดเริ่มต้นของ V45 GROUP เกิดจากการรวม 2 บริษัทเข้าด้วยกัน ในปี 2535 เราเปิดบริษัท 168 CIVIL CONSTRUCTION จากนั้นก็มาเปิด V45 DESIGN ที่เป็นงานในส่วนของการตกแต่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บริการลูกค้าได้แบบ One Stop Service”
“ข้อดีของการรวมบริษัท คือ สามารถบริหารจัดการได้ง่าย และทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพอีกด้วย”
ในช่วงแรก V45 GROUP เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างบ้าน ก่อสร้างสำนักงาน ตกแต่งภายในร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ เหมือนผู้รับเหมาทั่วไป จนกระทั่งในปี 2561 คุณชัยดิษฐ์ ได้สังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า นั่นคือการที่หลายคนเริ่มหันมาทำร้านค้าแบบ Stand Alone กันมากขึ้น!
“ช่วงนั้นผมมองว่าการทำร้านแบบ Stand Alone เป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรง และมองว่าเป็นอนาคตของบริษัทด้วย เลยพยายามค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างร้าน Stand Alone จากงานวิจัยต่างๆ ทำให้พบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคได้เปลี่ยนไป คนเริ่มเดินห้างกันน้อยลง และต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้ลูกค้าเดิมของเราส่วนใหญ่มีการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าของตัวเอง ดังนั้น V45 ก็ต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถทำงานตามโจทย์ที่ลูกค้าต้องการได้”

เมื่อจับเทรนด์ได้ และเข้าใจความต้องการของตลาดมากขึ้น ทำให้ V45 สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ Creden Data ผู้ให้บริการข้อมูลด้านนิติบุคคลของบริษัทที่มีรายชื่อจดทะเบียนในกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
พบว่าในช่วงปี 2561 V45 มียอดขายอยู่ที่ประมาณ 60-70 ล้านบาทต่อปี แต่หลังจากนั้นมาจับกลุ่มธุรกิจการขยายสาขาให้กับลูกค้า บริษัทก็เริ่มมีการเติบโต ตั้งแต่ปีละ 100 ล้านบาท และขยับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปี 2566 ที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายได้มากถึง 672 ล้านบาท
ในจุดนี้ คุณชัยดิษฐ์ ได้อธิบายถึงจุดแข็งที่ทำให้ V45 แตกต่างจากบริษัทอื่น นั่นคือการวาง Brand Positioning ให้เป็นมากกว่า “ผู้รับเหมาทั่วไป” เพราะมีบริการแบบ One-Stop Service ที่ครบจบในตัว ซึ่งประกอบด้วยบริการ 3 ด้าน คือ
1. ด้านขออนุญาตกับส่วนราชการต่างๆ เช่น ขออนุญาตก่อสร้าง ขออนุญาตจดทะเบียนบ้าน ขออนุญาตน้ำ ไฟฟ้า และบริการด้านขออนุญาตกับส่วนราชการต่างๆ
2. งานออกแบบโครงสร้างสถาปัตย์ พร้อมงานระบบ
3. งานก่อสร้าง ที่สามารถก่อสร้างทั้งโครงสร้างสถาปัตย์ และงานตกแต่งภายใน รวมไปถึงการจัดการด้านการออกแบบ ด้านการก่อสร้าง และการควบคุมต้นทุน
ปัจจุบัน V45 มีการดำเนินงานแบบครบวงจรให้กับลูกค้าที่มีความหลากหลาย ตั้งแต่กลุ่มธุรกิจรีเทลที่ต้องการขยายสาขาจำนวนมาก ธุรกิจร้านอาหารที่ต้องการร้านที่มีจุดเด่นน่าสนใจ รวมไปถึงงานอาคารทำงานขนาดใหญ่ เช่น คาเฟ่ ฟิตเนส ร้านเฟอร์นิเจอร์ และร้านค้าแบบ Standalone

ซึ่งในหลายๆ ครั้ง บริษัทจะเจอความท้าทายในเรื่องของเวลา ที่ต้องทำงานภายในระยะเวลาที่จำกัด และเป็นงานที่ทำพร้อมกันหลายพื้นที่ ตรงจุดนี้ คุณชัยดิษฐ์ ได้แบ่งปันวิธีการทำงานแบบมืออาชีพ โดยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามามีส่วนร่วม
“ความยากของการก่อสร้างในธุรกิจรีเทลคือความเร็ว เพราะผู้รับเหมาไม่เพียงต้องทำงานแข่งกับเวลา แต่มักจะมีการก่อสร้างเกิดขึ้นพร้อมกันในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้ผู้รับเหมาดูแลได้ไม่ทั่วถึง ตรงนี้ V45 ได้นำเทคโนโลยีช่วยในการทำงาน เช่น การใช้กล้องวงจรปิดในไซส์งาน เพื่อดูความคืบหน้า และแก้ปัญหาหน้างานแบบเรียลไทร์ม”
“อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน คือเรื่องความปลอดภัย เพราะเราต้องใช้คนในการควบคุมขั้นตอนต่างๆ ซึ่งหากเกิดความผิดพลาดในการก่อสร้างขึ้นมาก็อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของคนหน้างานได้ ดังนั้นพนักงานของเราต้องมีการฝึกอบรมตลอดเวลา เพื่อลดความผิดพลาดให้มากที่สุด”
“ทั้งหมดที่ว่ามานั้น ทำให้เราช่วยลูกค้าจบงานได้เร็วขึ้น ลูกค้าก็สามารถเปิดร้านได้เร็วขึ้น ยกตัวอย่าง บางสาขาที่เราต้องสร้างร้านให้ลูกค้าให้เสร็จภายใน 22 วัน เราก็สามารถทำได้ ควบคุมเวลาในการก่อสร้าง แต่ละโครงการได้ตามเป้าหมายที่ลูกค้าต้องการ”