วันนี้ (24 ก.ย. 64) เวลา 13.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเปิดศูนย์พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศูนย์สารพัดนึก) ตำบลวังพิกุล ณ องค์การบริหารส่วนตำบลวังพิกุล อำเภอวังทอง และศูนย์พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศูนย์สารพัดนึก) ตำบลชมพู ณ องค์การบริหารส่วนตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง นับเป็น 2 แห่งแรกของจังหวัดพิษณุโลกที่ช่วยเหลือและแก้ปัญหาแบบครบวงจรให้กลุ่มเปราะบางทุกช่วงวัยตั้งแต่เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายและอาสาสมัครในพื้นที่ จากนั้น ได้เดินทางไปเยี่ยมชมห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” ณ เทศบาลตำบลวังทอง อำเภอวังทอง พร้อมพูดคุยและรับฟังปัญหาอุปสรรคร่วมกับ กศน.จังหวัด และ กศน.อำเภอต่างๆ โดยได้ให้แนวทางการเป็นศูนย์สำหรับส่งเสริมการศึกษาและฝึกอาชีพออนไลน์สำหรับกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ โดยเฉพาะพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ผู้สูงอายุ และเด็กนอกระบบการศึกษา นอกจากนี้ ยังได้มอบถุงยังชีพ “ถุงกำลังใจ สู้โควิด” ประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคและยารักษาโรคที่จำเป็น ให้กับครอบครัวกลุ่มเปราะบาง จำนวน 80 ครอบครัว
นายจุติ กล่าวว่า ด้วยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีนโยบายขับเคลื่อนศูนย์การให้บริการด้านสวัสดิการสังคมสำหรับกลุ่มเปราะบางทุกช่วงวัยในระดับพื้นที่ทุกจังหวัด ได้แก่ ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ (ศพอส.) ศูนย์บริการคนพิการจังหวัด และศูนย์ชุมชนคุ้มครองเด็ก จึงได้บูรณาการการให้บริการต่างๆ แบบรวมศูนย์เดียว และบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายและอาสาสมัครในพื้นที่ โดยใช้ชื่อ “ศูนย์พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศูนย์สารพัดนึก)” ประจำตำบล เพื่อพัฒนายกระดับให้เป็นศูนย์กลางการบริการแบบมีส่วนร่วมของชุมชน (Community Center) สำหรับศูนย์พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศูนย์สารพัดนึก) ตำบลวังพิกุล และตำบลชมพู นับเป็น 2 แห่งแรกของจังหวัดพิษณุโลก ที่จะช่วยเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาสังคมอย่างบูรณาการแบบครบวงจรให้กับกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ระดับตำบล เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างมั่นคง
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า ปรัชญาของศูนย์พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศูนย์สารพัดนึก) คือเราไม่ทิ้งกัน เมื่อพี่น้องประชาชนมีปัญหาอะไรก็ให้มาขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์นี้ ซึ่งต้องขอบคุณองค์การบริหารส่วนตำบลที่ได้ให้สถานที่สำหรับตั้งศูนย์ฯ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ตอบโจทย์นโยบายของรัฐบาลอย่างชัดเจนในการลดช่องว่างของการสื่อสารระหว่างหน่วยงานราชการและพี่น้องประชาชน โดยเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2564 กระทรวง พม. ได้ลงนามความร่วมมือกับกระทรวงต่างๆ เพื่อบูรณาการแก้ปัญหาความยากจนและพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือนอย่างครอบคลุมในทุกมิติ ซึ่งศูนย์นี้ จะประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอาสาสมัครของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ โดยมีพี่เลี้ยงเป็นสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก และทีม One Home พม. จังหวัดพิษณุโลก นอกจากนี้ ศูนย์นี้จะช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในพื้นที่แบบครบวงจรร่วมกับนายอำเภอ หากไม่มีหน่วยงานในท้องถิ่นของกระทรวงมหาดไทยและอาสาสมัครแล้ว ศูนย์นี้จะทำงานไม่สำเร็จ ทั้งนี้ ตนอยากให้ทุกคนเข้ามาทำงานช่วยศูนย์นี้ โดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่มีการแบ่งแยกใดๆ เพราะเป็นเรื่องของประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ