นักวิชาการจี้รัฐ ชี้ 4 ข้อแก้ปัญหา “บิ๊กไบค์” ก่อนที่คนตายบนถนนเพิ่มขึ้น

นักวิชาการจี้รัฐ ทำจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี เร่งแก้ปัญหา “บิ๊กไบค์” ก่อนออกกฎหมายที่ทำให้คนตายบนถนนเพิ่มขึ้น

พญ.ชไมพันธุ์ สันติกาญจน์ ผู้จัดการโครงการขับเคลื่อนสังคมไทยสู่รถจักรยานยนต์ปลอดภัยและอดีตผู้เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุและความปลอดภัยบนถนน ประจำองค์การอนามัยโลก  เปิดเผยว่า จากการติดตามข่าวสารอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2564 พบว่า ปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดจากรถจักรยานยนต์ ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดจากรถจักรยานยนต์ ซีซีสูง หรือ บิ๊กไบค์ ที่เริ่มมีสถิติเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากรัญบาลมีความจริงใจและต้องการลดจำนวนผู้เสียชีวิตลง ต้องโฟกัสแก้ปัญหาที่ต้นเหตุใหญ่ ทั้งในประเด็นมาตรฐานถนน พฤติกรรมการขับขี่ มาตรฐานและสมรรถนะของตัวรถ รวมไปถึงกฎหมายที่ใช้ควบคุม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ขับขี่อายุน้อย และผู้ใช้รถ Big bike

พญ.ชไมพันธุ์ สันติกาญจน์

“ในกลุ่มนักวิชาการเราเอง มีความกังวลอย่างมากที่กฎกระทรวงฯ ใหม่ ไม่ได้จำกัดอายุผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ที่ 21 ปีขึ้นไปตามที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้แนะนำไว้ และความไม่ชัดเจนในการบังคับใช้ ตรวจสอบ ควบคุมกำกับการอบรมผู้ขับขี่ โดยเฉพาะในประเด็นที่ร่างกฎกระทรวงนั้น กำหนดที่ขนาดเครื่องยนต์ 400 ซีซีขึ้นไป สวนทางกับสถิติที่พบว่า เด็กอายุ 15-20 ปี ส่วนใหญ่บาดเจ็บและตาย จากรถมอเตอร์ไซค์เครื่องแรง 250-399 ซีซี” พญ.ชไมพันธุ์ ระบุ และว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ การแก้ปัญหาเรื้อรังของระบบใบอนุญาตขับขี่รถ จักรยานยนต์ที่ควรเป็นระบบอนุญาตขับขี่อย่างเป็นลำดับขั้น (Graduated Driver Licensing – GDL) ที่วิจัยพิสูจน์แล้วว่า ลดการบาดเจ็บและตายของผู้ขับขี่หน้าใหม่ได้เกือบ 25%

ผู้จัดการโครงการขับเคลื่อนสังคมไทยสู่รถจักรยานยนต์ปลอดภัย กล่าวว่า ได้ทำจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแล้ว โดยเสนอให้ กระทรวงคมนาคม พิจารณาปรับระเบียบเพื่อเพิ่มความปลอดภัย กลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ไทย ใน 4 ประเด็นหลักๆ คือ
  1. กำหนด “บิ๊กไบค์” ขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 246 ชีซี ขึ้นไป ซึ่งจะช่วยถนอมชีวิตผู้ขับขี่เพิ่มเกือบ 2 เท่า
2. กำหนดอายุผู้ซื้อหรือผู้ขอทำใบขับขี่บิ๊กไบค์ ที่อายุ 21 ปีขึ้นไป รวมทั้งกำหนดโทษ หากการอบรมและทดสอบการขับ ไม่ได้มาตรฐาน
3. ปรับปรุงการจำแนกประเภทของรถเครื่องขนาดเบา (L category) ตามเกณฑ์สากล (UNECE – WP.29) ให้มีประเภทรถ L1e ความเร็วไม่เกิน 45 กม./ชม. เพื่อจัดระบบความปลอดภัยตามกฎหมาย 
4. ปรับปรุงแก้ไขระบบใบอนุญาตขับขี่รถ จยย. เป็นระบบลำดับขั้น (Graduate Driver Licensing – GDL) และควบคุมดูแล ไม่ให้อนุญาตหรือผ่อนผันใดๆ เกี่ยวกับกฎกระทรวง พ.ศ. 2548 ที่จำกัดให้เด็กอายุ 15-17 ปี ขออนุญาตและขับขี่รถ จยย. ได้ไม่เกิน 110 ซีซี

พญ.ชไมพันธุ์ กล่าวว่า ได้ยื่นข้อเสนอดังกล่าวไประยะหนึ่งแล้ว ก็หวังว่า นายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม จะเล็งเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ คนที่จะขี่บิ๊กไบค์ ขนาด 2,500 ซีซี น้ำหนักรถ 200 กิโลกรัม ที่ให้ความเร็วได้สูงสุดมากกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากจะเสี่ยงอันตรายทั้งต่อตนเอง คนซ้อนท้าย เขาอาจจะพาคนอื่นและครอบครัวที่กำลังใช้รถ ใช้ถนนอย่างถูกกฎหมายไปสู่อุบัติภัยที่รุนแรงได้

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *