ปอร์เช่ เปิดตัว พานาเมร่า ใหม่ (The new Panamera)แรงสะใจด้วยพละกำลังสูงสุด 700 แรงม้า”

ปอร์เช่ พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด  (Porsche Panamera Turbo S E-Hybrid):  อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 35.7 – 37.0 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 2.8 – 2.7 ลิตร ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร  อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์   63 – 62 กรัมต่อกิโลเมตร

ปอร์เช่ พานาเมร่า 4เอส อี-ไฮบริด (Porsche Panamera 4S E-Hybrid): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย43.4 – 50.0 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 2.3 – 2.0 ลิตร ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 53 – 47 กรัมต่อกิโลเมตร

ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Porsche Panamera 4 E-Hybrid): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 43.4 – 47.6 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 2.3 – 2.1 ลิตร ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 51 – 47 กรัมต่อกิโลเมตร

เสริมทัพ 2 รุ่นสปอร์ตซาลูนพลังไฮบริด ล้ำหน้าด้วยสมรรถนะ ความสะดวกสบาย และพิสัยการเดินทางสูงสุด

ปอร์เช่ เปิดตัว พานาเมร่า ใหม่ (The new Panamera)  แรงสะใจด้วยพละกำลังสูงสุด 700 แรงม้า

สตุ๊ทการ์ท. ปอร์เช่ เติมเต็มสายการผลิตพานาเมร่าใหม่ (The new Panamera) ประจำการ 2 ขุมพลังใหม่ แรงสุดด้วยรุ่นเรือธงพกพาพละกำลัง 700 แรงม้า (514กิโลวัตต์) พร้อมแรงบิดมหาศาล 870 นิวตันเมตร ส่งผลให้ พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด (Panamera Turbo S E-Hybrid) กลายเป็นสปอร์ตซีดานหรูที่ทรงพลังที่สุด จากสายการผลิตปกติ ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน V8 ความจุกระบอกสูบ 4.0ลิตร เทอร์โบคู่ ที่ให้กำลังสูงสุด 571 แรงม้า (420 กิโลวัตต์) และมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพให้กำลัง 136แรงม้า (100 กิโลวัตต์) พิสัยการเดินทางด้วยไฟฟ้าอย่างเดียว เพิ่มขึ้นกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ผลจากแบตเตอรี่ชุดใหม่ขนาด 17.9 กิโลวัตต์ และการทำงานของdriving modes อันยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับ พานาเมร่า 4อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) ใหม่ ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน V6 ความจุ 2.9ลิตร เทอร์โบคู่ 330 แรงม้า (243 กิโลวัตต์) ส่งผลให้พละกำลังสูงสุดรวมเป็น 462 แรงม้า (340 กิโลวัตต์)

สปอร์ตซาลูน เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการขับขี่ยนตกรรมไฮบริด

หลังจากการปรับโฉม พานาเมร่า 4เอส อี-ไฮบริด ใหม่ (The new Panamera 4S E-Hybrid)  ยกระดับพละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 560 แรงม้า (412 กิโลวัตต์) ถึงเวลาที่ปอร์เช่ จะเติมเต็มพานาเมร่า (Panamera) ขุมพลังplug-in hybrid ให้ครบถ้วนทั้ง 3 ทางเลือกเป็นครั้งแรกปอร์เช่วางกลยุทธ์ในการขยายฐานกำลังของแนวคิดE-Performance อย่างเป็น แบบแผนโดยยังคงรักษามอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ให้เป็นหัวใจหลักของสถาปัตยกรรมการขับเคลื่อนยุคใหม่ถ่ายทอด กำลังผ่าน ระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะคลัทช์คู่ 8 จังหวะ(PDK) และด้วยพลังจากมอเตอร์กว่า 136 แรงม้า (100กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร เมื่อประสานการทำงานกับเครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีขนาดแตกต่างกันก่อให้เกิด สมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่น พร้อมชุดแต่ง Sport Chrono package ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เสริมพลังให้แก่เครื่องยนต์เบนซิน V8 4ลิตร เทอร์โบคู่ จากพละกำลัง 550 แรงม้า (404 กิโลวัตต์) เพิ่มขึ้นเป็น 571 แรงม้า (420 กิโลวัตต์) พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด (Panamera Turbo S E-Hybrid) ให้อัตราเร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง ไปถึงระดับความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3.2 วินาทีเร็วขึ้น 0.2 วินาที ทะยานทะลุความเร็วสูงสุดกว่า 315กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับพานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด(Panamera 4 E-Hybrid) ใช้เวลาเพียง 4.4 วินาที เร็วขึ้น0.2 วินาที ในการออกตัวจนถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในส่วนของความเร็วสูงสุดทำได้ที่ 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้น 2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความจุรวมของแบตเตอรี่ high-voltage เพิ่มขึ้นจาก14.1 เป็น 17.9 กิโลวัตต์ จากการใช้เซลล์แบตเตอรี่ที่ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น รวมทั้งการปรับเปลี่ยนการทำงานของdriving modes ให้มีความเหมาะสมกับคุณลักษณะการใช้พลังงานสูงสุด พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี ไฮบริด (Panamera Turbo S E-Hybrid) จึงมีพิสัยการเดินทางด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวสูงถึง 50 กิโลเมตร ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP EAER City (ในกรณีที่ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC: ระยะทางสูงสุดทำได้59 กิโลเมตร) ขณะที่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด(Panamera 4 E-Hybrid) สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ในสภาพที่ปราศจากมลภาวะ เป็นระยะทางสูงสุดถึง 56 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP EAER City (ในกรณีที่ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC: ระยะทางสูงสุดทำได้ 64 กิโลเมตร) รถสปอร์ตขุมพลังplug-in hybrid จากปอร์เช่ทุกคัน สามารถชาร์จพลังงานได้ภายในที่พักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นการใช้จุดเชื่อมต่อมาตรฐาน หรือแบบ power socket ทั้งนี้อุปกรณ์Porsche Mobile Charger ที่ติดมากับรถ รองรับกำลังไฟฟ้าในการชาร์จสูงสุดไม่เกิน 7.2 กิโลวัตต์สำหรับการชาร์จกับสถานีชาร์จพลังงานสาธารณะสามารถทำได้ด้วยการใช้อุปกรณ์ Mode 3 cable

มุมมองที่เฉียบคม ให้สัดส่วนที่ลงตัวยิ่งขึ้น

งานออกแบบตัวถังด้านหน้าของ พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด (Panamera Turbo S E-Hybrid) สร้างความแตกต่างอย่างเหนือชั้น ด้วย Turbo front light modules ทรง dual C-shaped ขยายขนาดช่องรับอากาศด้านข้างให้ภาพลักษณ์ที่กร้าวแกร่งดุดัน แผงlight bar ท้ายรถปรับใหม่ย้ายตำแหน่ง ขึ้นมาเหนือบานฝาท้าย วางตัวแนวโค้งซ้ายจรดขวา สามารถสั่งติดตั้งอุปกรณ์พิเศษประกอบด้วย ไฟท้ายรมดำdarkened Exclusive Design tail light modules พร้อมระบบ dynamic Coming/Leaving Home animation ล้ออัลลอย 3 ลวดลายใหม่ ขนาด 20 และ 21 นิ้ว และ 2 สีตัวถังใหม่ (Cherry Metallic และ Truffle Brown Metallic)

ยกระดับสมรรถนะ และความสะดวกสบาย

ช่วงล่างและระบบควบคุมได้รับการปรับแต่ง เพื่อเสริมความสปอร์ต และความนุ่มนวลให้แก่พานาเมร่า ใหม่ทุกรุ่น (The new Panamera) ทั้งนี้ในบางรุ่น โปรแกรมควบคุมได้ถูกเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุม การบังคับทิศทางเจเนอเรชันล่าสุดและยางรถยนต์ใหม่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการตอบสนองของรถจะเต็มไปด้วยความแม่นยำ สูงสุดในรุ่นเรือธง พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด (Panamera Turbo S E-Hybrid) ได้รับการติดตั้งระบบควบคุม ช่วงล่างเต็มพิกัดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อาทิ ระบบ Porsche Dynamic Chassis Control Sport (PDCC Sport) electric roll stabilisation พร้อมระบบ Porsche Torque Vectoring Plus (PTV Plus) ระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง rear axle steering พร้อมระบบ Power Steering Plus และระบบเบรกเซรามิก Porsche Ceramic Composite Brake (PCCB)

ราคา

ปอร์เช่ พานาเมร่า ใหม่ (The new Porsche Panamera)พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) และพานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด (Panamera Turbo S E-Hybrid) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูม ปอร์เช่ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ทุกสาขา พบข้อมูลข่าวสารสื่อภาพยนต์เเละภาพถ่ายอื่นๆ  ได้ที่ Porsche Newsroom (http://newsroom.porsche.com)

อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยและ อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออก  ไซด์ ได้รับการตรวจสอบตามมาตรฐานสากลที่สอดคล้องกับวิธีการ Light Vehicle Test Procedure (WLTP) ล่าสุด สำหรับค่าการตรวจวัดอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามมาตรฐาน NEDC ที่ระบุในบทความนี้ ใช้อ้างอิงได้เฉพาะสภาพการทดสอบในช่วงเวลาเดียวเท่านั้น ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับค่าการตรวจวัดอัตราสิ้นเปลืองของ NEDC ที่ได้จากวิธีการอื่นใดก่อนหน้าการทดสอบนี้

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *