ด.ต.สน.ลำผักชีพร้อมพวก โดนข้อหาพาพวกบุกปิดล้อม-ยิงปืน

เมื่อวันที 31มีนาคม พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. โฆษก บชน. กล่าวกรณีปรากฎข่าว มีข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับการเรียกร้องทรัพย์สินจากประชาชน บริเวณชุมชนประชารวมใจ 73 โดยชาวบ้านล้อมชาย 3 คนที่อ้างตัวเป็นตำรวจ และอ้างตัวเป็นนักข่าว มีอาวุธปืน เข้ามาตรวจค้นบ้านในชุมชน โดยไม่มีหมายค้น และหนึ่งในคนที่ถูกล้อมอ้างว่าเป็นชุดจู่โจม มาทำการล่อซื้อยาเสพติดในพื้นที่นั้น

จากการตรวจสอบทราบว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ สน.นิมิตรใหม่ หลังจากรับแจ้งเหตุจากทางสน.นิมิตรใหม่ เข้าระงับเหตุทันที และพบนายจักรินทร์ ใยโพธิ์ทอง อายุ 42 ปี หลบอยู่ในรถกระบะ โดยมีชาวบ้านล้อมไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจค้นพบอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 9 นัด จึงควบคุมตัวนายจักรินทร์มายัง สน.นิมิตรใหม่เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย 

จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่า นายจักรินทร์เดินทางมายังที่เกิดเหตุร่วมกับ ด.ต.คณพัฒน์ แดงเจริญ ผบ.หมู่(สส) สน.ลำผักชี และนายแฟรงค์ (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) โดย ด.ต.คณพัฒน์แจ้งว่าจะให้มาช่วยหาข่าวเรื่องยาเสพติดในชุมชนนี้ แต่พอชาวบ้านเห็นคนแปลกถิ่นเข้ามา จึงเกิดเข้ามารุมล้อม ซึ่งด.ต.คณพัฒน์และนายแฟรงค์วิ่งหลบหนีไปได้ก่อน 

พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเข้ามาในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” 

ต่อมาพนักงานสอบสวนเรียก ด.ต.คณพัฒน์และนายจักรินทร์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม และแจ้งข้อกล่าวหาให้ ด.ต.คณพัฒน์ “ร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธปืนและยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” 

และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมนายจักรินทร์ โดยกล่าวหาว่าร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน ในส่วนของนายแฟรงค์ อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี

ทั้งนี้ ในส่วนการดำเนินคดีอาญาและวินัย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ เภตรา ผบช.น. กำชับให้ พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 พิจารณาตามอำนาจหน้าที่ โดยพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพบว่าการกระทำส่วนใดเป็นความผิด ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด.

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *