คนไทยพร้อมสู้กลับ! ปรับตัวรับเงินเฟ้อ สถาบันฯ ‘ฮาคูโฮโด’ แนะแบรนด์ทำ tips & tricks ให้ทุกการใช้จ่ายลูกค้าคุ้มค่าที่สุด

  • ค่าครองชีพพุ่งสูง คนกรุงฯ อ่วมสวนทางคนต่างจังหวัด เร่งหาความรู้ อัพสกิลเพิ่มหาโอกาสสร้างรายได้
  • แนะแบรนด์เสนอเทคนิคในการประหยัดในชีวิตประจำวัน และจับกลุ่มครอบครัว สร้างการมีส่วนร่วมพิเศษในช่วงลูกๆ ปิดเทอม

กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 6 ตุลาคม 2565 – สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND) รวมกับบริษัทในเครือฯ ฮาคูโฮโด โอทู จำกัด Hakuhodo O2 Co. Ltd เปิดผลสำรวจการคาดการณ์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทยประจำเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 ชี้ว่า ความต้องการใช้จ่ายยังทรงตัว ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันที่คนไทยยังต้องประสบ โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ที่ต้องเจอกับทั้งค่าครองชีพที่พุ่งสูง รายจ่ายที่มีแนวโน้มมากขึ้น แต่กลับกันรายได้ยังคงเท่าเดิม

คุณพร้อมพร สุภัทรวณิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านวิจัยการตลาดและกลยุทธ์ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด ฮาเซียน (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่าอย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวในบ้านเรายังคงคึกคัก มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังเปิดประเทศ จังหวัดต่างๆ จากที่เคยซบเซาเพราะพิษโควิด ตอนนี้กลับมาเริ่มคึกครื้นมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้สอย คนในประเทศมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และคนในประเทศเองได้กลับมาใช้ชีวิตกันอย่างปกติสุข จับจ่ายใช้สอยเพื่อตนเองและครอบครัว รวมถึงใส่ใจในเรื่องอนาคตของตนเองและครอบครัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงในครอบครัว คนในสังคมหันมามุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาตนเองโดยถือคติที่ว่า “ความรู้คือจุดเริ่มต้นของความก้าวหน้า” หวังเพิ่มความรู้ความสามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และความมั่งคั่งในอนาคตระยะยาว

คุณวิลาสินี กาญจนกุญชร, นักวางแผนกลยุทธ์อาวุโส บริษัท ฮาคูโฮโด โอทู จำกัด ได้เสนอแนวทางให้แบรนด์ในการปรับตัวช่วยเหลือผู้บริโภคในการลดหรือคงค่าใช้จ่ายในเวลาคับขัน เจาะลูกค้ากลุ่มครอบครัวช่วงเวลาสำคัญช่วงปิดเทอมของลูกๆ ที่กำลังจะมาถึงนี้

  1. แชร์เทคนิค Tips&Tricks ในการช่วยผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะแม้ว่าเงินจะเฟ้อมากแค่ไหน ค่าครองชีพจะสูงมากเท่าไหร่ แต่คนไทยยังคงต้องมีการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน สิ่งที่แบรนด์จะทำได้ดีที่สุดตอนนี้ คือ การช่วยผู้บริโภคง่ายๆ ด้วยการแชร์เทคนิคต่างๆ เช่น การเก็บอาหารสดอย่างไรให้อยู่ได้นาน หรือวิธีการซื้อสินค้าอย่างไรให้คุ้มค่าคุ้มราคา เทคนิคการขับรถให้ประหยัดน้ำมัน ซื้อแต่ของที่จำเป็น เป็นต้น ทั้งนี้คนไทยมีแนวโน้มพร้อมปรับตัวสู้ทุกสถานการณ์สูง และยังพร้อมจับจ่ายในสิ่งที่ “ดีต่อใจ” เพื่อฮีลตัวเองจากปัญหารอบตัวที่ควบคุมไม่ได้
  1. วันหยุดยาวและวันหยุดปิดเทอมของเด็กๆ ที่กำลังจะมาถึง ถือเป็นวันธรรมดาที่แสนพิเศษ จะได้นอนตื่นสาย ออกไปเที่ยวเล่นกับครอบครัว นี่เป็นโอกาสอันดีที่แบรนด์จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความทรงจำดีๆ สำหรับเด็กๆและครอบครัว ผ่านการจัดกิจกรรมหรือแคมเปญง่ายๆ ให้ทุกคนมีส่วนร่วมสานสัมพันธ์ในครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น

ความสนใจของคนไทยในขณะนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของข่าวสารบ้านเมือง เศรษฐกิจ ชีวิตประจำวัน จากผลสำรวจเห็นได้ชัดว่า ขณะนี้คนไทยสนใจข่าวเกี่ยวกับการเมืองสูงสุด

คุณธีรเมศร์ นิติจรรยาวงศ์, ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การสื่อสาร บริษัท ฮาคูโฮโด โอทู จำกัด ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า ‘ขณะนี้ข่าวการเมืองร้อนแรงที่สุด คนไทยให้ความสนใจมาก โดยเฉพาะเรื่องวาระครบ 8 ปี ของนายกรัฐมนตรี คนไทยกำลังจับตามองว่าบทสรุปของเรื่องนี้จะไปจบในทิศทางไหน หรือแม้กระทั่งเรื่องผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ ว่าจะจัดการปัญหาน้ำท่วมที่ต้องพบเจอทุกปีอย่างไร จะมีการเปลี่ยนแปลงได้มากแค่ไหน แต่ในขณะเดียวกันก็มีเรื่อง Forex3D ที่คนไทยให้ความสนใจเป็นจำนวนไม่น้อย เพราะเป็นคดีฉ้อโกง ทำให้คนไทยหลายคนตั้งถามถึงความโปร่งใส และความชอบธรรมในสังคม ซึ่งจุดนี้เองทำให้กระแสคนในสังคมเปลี่ยนไป มีการจับกลุ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันมากขึ้น ใส่ใจในคนรอบตัวมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่รับข่าวสารแล้วจบไป แต่ต้องการการเปลี่ยนแปลงอันเป็นรูปธรรมมากขึ้น’

นอกจากนี้ชี้ชัดว่าเรื่องความมั่งคั่งของคนไทยถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ควรระวัง ยิ่งในยุคที่เกิดภาวะเงินเฟ้อพร้อมทั้งค่าครองชีพสูงแบบนี้ อาจจะทำให้ใครหลายคนชักหน้าไม่ถึงหลัง คนส่วนใหญ่จึงมุ่งมั่นพัฒนาตนเอง มองถึงความมั่งคั่งในอนาคต โดยเริ่มจากการเรียนรู้ในสิ่งต่างๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้ตนเองและครอบครัวในระยะยาว ปรับตัวสู้กับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน การศึกษาหาความรู้ไว้ต่อยอดในอนาคตจึงเป็นเรื่องสำคัญ

แต่เมื่อลงลึกถึงความสุขในภาพรวมคนไทยมีเกณฑ์ความสุขที่ลดลงเมื่อเทียบจากผลสำรวจเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หากแยกเพศจะเห็นได้ชัดว่า ใน 100 คน เพศชายมีเกณฑ์ความสุขที่เพิ่มขึ้น +2 แต่ในเพศหญิงมีเกณฑ์ความสุขที่ลดลง -3 อันส่งผลมาจากภาระหน้าที่ในการทำงาน ทั้งงานในบ้าน งานนอกบ้าน รวมถึงการต้องดูแลเด็กๆ ในช่วงปิดเทอม ทำให้ไม่มีเวลามากพอในการพักผ่อน ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้แนวโน้มเรื่องความสุขโดยรวมลดลง

อย่างไรก็ตาม แม้ในภาวะเงินเฟ้อ ค่าครองชีพพุ่งสูง ของกิน ของใช้มีราคาที่แพงขึ้น ผู้คนรู้สึกท้อและหดหู่ แต่ก็ยังมีสัญญาณที่ดีที่คนไทยยังคงพร้อมปรับตัวสู้ในทุกสถานการณ์ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ ฮาคูโฮโด อาเซียน ประเทศไทย จึงแนะแบรนด์ต่าง ๆ ให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและเข้ามามีบทบาทในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย

เกี่ยวกับสถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย)

สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND) ทำการศึกษาเกี่ยวกับ “การคาดการณ์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทย” ทุกๆ สองเดือน โดยผลสำรวจการคาดการณ์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทยประจำเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 เป็นผลสำรวจจากการรวบรวมข้อมูลจากวันที่  19  ถึง 29 สิงหาคม พ.ศ. 2565 โดยมุ่งเน้นเกี่ยวกับแนวโน้มและพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยในอนาคต ผ่านการทำแบบสอบถามเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ จากประชากรเพศชายและหญิงจำนวน 1,200 คน อายุระหว่าง 20-59 ปี จาก 6 ภูมิภาค ทั่วประเทศ 

Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN คือศูนย์วิจัยแห่งใหม่ของกลุ่มฮาคูโฮโดในภูมิภาคอาเซียน ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2014 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือบริษัทต่างๆ ภายในประเทศสมาชิกภูมิภาคอาเซียนในเรื่องของข้อมูลการตลาด รวมทั้งสังเกตไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยการวิจัยของฮาคูโฮโดจะเป็นการวิจัยที่มุ่งเน้นการศึกษา Sei-katsu-sha หรือ ผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคม (Life Living Person) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของปรัชญาของฮาคูโฮโด ที่ไม่เพียงแค่อธิบายผู้คนในฐานะผู้บริโภคที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่อธิบายถึงความเป็นมนุษย์ที่มีชีวิต จิตใจ ไลฟ์สไตล์ แรงบันดาลใจ และความฝันที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *