เมื่อ 12 ธ.ค.63 ที่สนามลีโอ สเตเดี้ยม เป็นการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2020/21 ระหว่างเจ้าถิ่นทัพ “เดอะ แรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงลงสนามนัดที่ 14 ด้วยการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทัพ “ช้างศึกยุทธหัตถี” สุพรรณบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 10 ของตาราง โดยเกมนี้ บีจีพียู มีการปรับทัพด้วยการส่งผู้เล่นอย่าง เชาว์วัตน์ วีระชาติ, สุรชาติ สารีพิมพ์, ทศพล ชมชน และศุภศักดิ์ สารภี ออกสตาร์ท 11 ตัวจริง ผสมกับผู้เล่นตัวหลักอย่าง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กัปตันทีม, สารัช อยู่เย็น, สุมัญญา ปุริสาย, วิคเตอร์ คาร์โดโซ่, อันเดรส ตูเญซ และดาเนี่ยล การ์เซีย โรดริเกวซ
เริ่มเกมครึ่งแรกเจ้าถิ่น บีจี ปทุมฯ เป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเกม และเพียงแค่นาทีที่ 2 ก็มาได้ประตูขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็วจากจังหวะฟรีคิก เชาว์วัตน์ วีระชาติ เปิดให้ อันเดรส ตูเญซ เติมขึ้นมาแปที่เสาสองเข้าไปให้ทัพ “เดอะ แรบบิท” ขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 14 บีจี ปทุมฯ ได้ลุ้นประตูที่สองจากจังหวะที่ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ทำชิ่งกับ สุมัญญา ปุริสาย ก่อนที่จังหวะสุดท้าย ฐิติพันธ์ จะยิงบอลไม่ดีออกหลังไป นาทีที่ 21 ทัพ “เดอะ แรบบิท” เกือบได้ประตูที่สองอีกครั้งจากจังหวะที่ เชาว์วัตน์ วีระชาติ เปิดฟรีคิกให้ อันเดรส ตูเญซ ได้โหม่งที่เสาสองอีกครั้ง แต่คราวนี้ผู้รักษาประตูทีมเยือนปัดเอาไว้ได้
นาทีที่ 24 บีจี ปทุมฯ มาได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ สุรชาติ สารีพิมพ์ วางบอลจากฝั่งขวาให้ ศุภศักดิ์ สารภี ที่ฝั่งซ้ายก่อนที่ดาวรุ่งวัย 20 จะเลี้ยงตัดเข้าเขตโทษก่อนยิงด้วยซ้ายบอลโดนตัวผู้รักษาประตูทีมเยือนเข้าประตูไปให้ทัพ “เดอะ แรบบิท” หนีห่าง 2-0
นาทีที่ 30 บีจีพียู น่าจะได้ประตูที่สามจากจังหวะที่ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ หลุดขึ้นมาทางขวาก่อนเปิดเข้าเขตโทษให้ ดาเนี่ยล การ์เซีย โรดริเกวซ ยิงเน้นๆแต่บอลโดนตัวผู้รักษาประตูทีมเยือนออกหลังอย่างน่าเสียดาย
ก่อนที่ช่วงเวลาที่เหลือของครึ่งแรกจะยังไม่มีประตูเพิ่มจบ 45 นาที บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ออกนำ สุพรรณบุรี เอฟซี อยู่ 2-0
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังนาทีที่ 54 ทัพ “เดอะ แรบบิท” พลาดการได้ประตูที่สามจากจังหวะที่ ศุภศักดิ์ สารภี ทุ่มให้ เชาว์วัตน์ วีระชาติ ได้บอลในเขตโทษก่อนเปิดให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เอาบอลลงหนึ่งจังหวะก่อนจะยิงหลุดเสาออกไปนิดเดียว
นาทีที่ 62 ทัพ “เดอะ แรบบิท” ต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน เมื่อ สุรชาติ สารีพิมพ์ ไปทำฟาวล์ใส่ผู้เล่นทีมเยือน ก่อนที่ผู้ตัดสินเช็ก VAR แล้วให้ใบแดงกับ สุรชาติ สารีพิมพ์ ออกจากสนามไป
นาทีที่ 67 บีจีพียู เปลี่ยนผู้เล่นคนแรกด้วยการส่ง ชาตรี ฉิมทะเล ลงเล่นแทน เชาว์วัตน์ วีระชาติ ถัดมาอีกหนึ่งนาทีทัพ “เดอะ แรบบิท” เปลี่ยนผู้เล่นคนที่สองด้วยการส่ง สหรัฐ ปองสุวรรณ ลงเล่นแทน ศุภศักดิ์ สารภี
แม้ว่าจะเหลือผู้เล่นน้อยกว่า แต่ในนาทีที่ 77 ทัพ “เดอะ แรบบิท” ยังได้โอกาสลุ้นประตูที่สามจากจังหวะที่ สุมัญญา ปุริสาย โยนให้ อันเดรส ตูเญซ โหม่งหลุดกรอบออกไปนิดเดียว
จนในนาทีที่ 79 บีจี ปทุมฯ ก็มาได้ประตูที่สามจนได้จากจังหวะเตะมุม สุมัญญา ปุริสาย เปิดมาให้ ชาตรี ฉิมทะเล โหม่งชงให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ยิงเข้าไปให้ บีจีพียู ออกนำเป็น 3-0
นาทีที่ 83 บีจีพียู เปลี่ยนผู้เล่นคนที่สามด้วยการส่ง สิโรจน์ ฉัตรทอง ลงเล่นแทน สุมัญญา ปุริสาย นาทีที่ 86 ทัพ “เดอะ แรบบิท” ได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะที่ สิโรจน์ ฉัตรทอง พาบอลลุยเข้าเขตโทษแนวรับทีมเยือนสกัดบอลมาเข้าทาง สารัช อยู่เย็น ซัดเต็มข้อแต่ผู้รักษาประตูทีมเยือนปัดเอาไว้ได้
นาทีที่ 89 บีจี ปทุมฯ เกือบได้ประตูที่สี่จากจังหวะเตะมุม ดาเนี่ยล การ์เซีย โรดริเกวซ เปิดให้ วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ โหม่งแต่ติดแนวรับทีมเยือนสกัดออกมาได้ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+4 บีจี ปทุมฯ มาได้ประตูที่สี่ปิดท้ายจากจังหวะเตะมุม ดาเนี่ยล การ์เซีย โรดริเกวซ เปิดให้ อันเดรส ตูเญซ โหม่งเข้าไปง่ายๆ
จบเกม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เหลือ 10 คน เปิดบ้านถล่มเอาชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี ไป 4-0 เก็บสามคะแนน พร้อมการันตีจ่าฝูงของเลกแรกแน่นอนแล้ว โดยนัดต่อไปทัพ “เดอะ แรบบิท” มีโปรแกรมบุกเยือน ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ในศึกโตโยต้า ไทยลีก 2020/21 นัดที่ 15 หรือว่านัดสุดท้ายของเลกแรก ในวันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม 2563 เวลา 17.00 น. ที่สนามมิตรผล สเตเดี้ยม
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม :
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด : ฉัตรชัย บุตรพรม (ผู้รักษาประตู), สุมัญญา ปุริสาย(สิโรจน์ ฉัตรทอง น.83), วิคเตอร์ คาร์โดโซ่, อันเดรส ตูเญซ, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์(หัวหน้าทีม), สารัช อยู่เย็น, ทศพล ชมชน, เชาว์วัตน์ วีระชาติ(ชาตรี ฉิมทะเล น.67), ดาเนี่ยล การ์เซีย โรดริเกวซ, สุรชาติ สารีพิมพ์, ศุภศักดิ์ สารภี(สหรัฐ ปองสุวรรณ น.68)
สุพรรณบุรี เอฟซี : แพทริค เดย์โต (ผู้รักษาประตู), วสันต์ ฮมแสน, ทินกร อสุรินทร์, เอลิอันโดร ดอส ซานโตส, แพทริค ไรเชลท์, กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์, จิรวัฒน์ ทองแสงแพรว, ปาณเดชา เงินประเสริฐ, มูฮัมหมัด ซูลฟาห์มี, อภิศร ภูมิชาติ, ศิริมงคล จิตบรรจง
ยอดผู้ชมในสนาม 4,593 คน
รายชื่อผู้ตัดสิน :
ผู้ตัดสิน : ชัยฤกษ์ งามสม
ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 : ทานินทร์ รื่นจิตต์
ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 : วรัญญู ชมโกศล
ผู้ตัดสินที่ 4 อธิวัฒน์ สีลาโล้
ผู้ช่วยผู้ตัดสินวีดีโอ 1 : ต่อพงษ์ สมสิงห์
ผู้ช่วยผู้ตัดสินวีดีโอ 2 : กิติศักดิ์ พิกุลเงิน
ผู้ควบคุมการแข่งขัน : พีระพล ภูอุดม
ผู้ประเมินผู้ตัดสิน : ณัฏฐ ศรีเสาวลักษณ์