ป.ป.ส. แจง “ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับยาเสพติดเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563”

ป.ป.ส. แจง “ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับยาเสพติดเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563” เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติด ให้ความสำคัญกับการขยายผลจับตัวการสำคัญ นายทุนใหญ่ และทำลายเครือข่ายยาเสพติด อีกทั้งเพิ่มเงินตอบแทนการจับผู้ค้ายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชนที่จำหน่ายให้เด็กและเยาวชน

นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) ชี้แจงถึง ความคืบหน้าในการแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับยาเสพติดเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด ว่าเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2563
ได้ระเบียบดังกล่าวลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป โดยการแก้ไขเป็นไปตามนโยบายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่เล็งเห็นว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดขาดแรงจูงใจที่จะทำการสืบสวนขยายผลไปถึงตัวการสำคัญหรือนายทุนเจ้าของยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติด เห็นได้จากที่ผ่านมาการจับยาเสพติดที่ได้ของกลางจำนวนมากผู้ถูกจับส่วนใหญ่เป็นเพียงผู้รับจ้างลำเลียง และอีกประการต้องการสร้างแรงจูงใจให้เกิดการปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดที่จำหน่ายยยาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จำหน่ายให้กับเด็กและเยาวชน

เลขาธิการ ป.ป.ส. ชี้แจงเพิ่มเติมว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบหมายให้ สำนักงาน ป.ป.ส. แก้ไขระเบียบดังกล่าว โดยเน้นการจ่ายเงินค่าตอบแทนให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดที่ทำการขยายผลจนสามารถจับตัวการสำคัญได้ ดังนั้นในกรณีที่จับยึดได้เฉพาะตัวยาเสพติดและไม่มีผู้ต้องหา จะจ่ายเงินค่าตอบแทนแก่ผู้สืบสวนจับร้อยละ 25 ของจำนวนเงินที่คำนวณได้จากปริมาณยาเสพติดตามอัตราที่กระทรวงยุติธรรมกำหนด ส่วนกรณีที่จับได้ทั้งผู้ต้องหาและยึดยาเสพติดได้ จะจ่ายเงินค่าตอบแทนให้ผู้จับร้อยละ 50 ของจำนวนเงินที่คำนวณได้จากปริมาณของยาเสพติด โดยทั้งสองกรณีดังกล่าวข้างต้น หากพนักงานสอบสวนหรือผู้สืบสวนจับได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไปจนสามารถจับผู้ร่วมกระทำความผิดเพิ่มเติม นายทุน เจ้าของยาเสพติด หรือตัวการที่อยู่เบื้องหลังการกระทำความผิดได้ ก็จะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มอีกร้อยละ 25 ซึ่งรวมไปถึงกรณีการสืบสวนสอบสวนขยายผลไปจับผู้กระทำความผิดเครือข่ายใหม่ พนักงานสอบสวนและผู้สืบสวนจับที่ทำการขยายผล ก็จะได้รับเงินค่าตอบแทนเพิ่มร้อยละ 25 เช่นเดียวกัน นอกจากนี้กรณีที่เป็นการจับผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดให้กับเด็กหรือเยาวชนในหมู่บ้านชุมชน ผู้สืบสวนจับจะได้รับเงินค่าตอบแทนเพิ่มเป็นรายคดีอีกคดีละไม่เกิน 5,000 บาท

เลขาธิการ ป.ป.ส. ชี้แจงให้ตอนท้ายว่า การแก้ไขระเบียบดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติด ในการสืบสวนและสอบสวนเพื่อทำลายเครือข่ายวงจรการค้ายาเสพติดให้ได้อย่างเด็ดขาด และเพื่อเป็นการลดความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในหมู่บ้านหรือชุมชนให้ได้อย่างแท้จริงโดยระเบียบนี้จะมีผลบังคับใช้กับคำขอรับเงินรางวัลในทุกคดีที่ยื่นขอรับเงินค่าตอบแทนตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้ในคดีที่มีการจับกุมก่อนวันดังกล่าวหากพนักงานอัยการมีคำสั่งในคดีแล้ว ขอให้ผู้ผู้ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดได้ดำเนินการยื่นคำขอตามระเบียบ และขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างพื้นที่ปลอดภัย เพื่อห่างไกลยาเสพติด โดยหากพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดสามารถแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน 1386 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *